หนังม้วนเก่าถูกฉายซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ตอกย้ำให้ผู้ชมรู้ว่าสงครามครั้งนี้จะยืดเยื้อไปอีกยาวหากทั้งสองฝ่ายยังตั้งหน้าตั้งตาอยากจะเอาชนะอยู่ท่าเดียว
เสื้อเชิ้ตตัวโคร่งถูกฉีกกระชากเสียจนขาดวิ่น
ลืมบิลลืมราคาว่ากว่าจะซื้อมาได้ต้องแลกด้วยหยาดเหงื่อมากมายถึงเพียงไหน
แต่ช่างหัวแม่.ง เซฮุนไม่สนใจ
ถ้าวันนี้ไม่ได้ตบปากแม่ตัวดีที่พูดมากไม่รู้จักเวล่ำเวลาเขาคงนอนตายตาไม่หลับแน่
เปิดฉากรุกรานด้วยฟันคมและลิ้นชื้น
ร่างสูงกัดหัวไหล่ขาวบอบบางไม่เบาแรงนัก ในใจหมายจะฟัดให้เนื้อนิ่มขึ้นรอยช้ำเป็นจ้ำเขียว
ใบหน้าสวยหวานซีดเซียว ทั้งจากอาการป่วยและความหวาดกลัวที่ฉายชัดออกมาจากแววตา
เก่งกล้าแต่เพียงปาก แท้แล้วคนอ่อนแอที่สุดก็คือเขา
ถึงเวลาถูกทำร้ายได้แต่กรีดร้องอ้อนวอนขอความเป็นธรรมจากพระเจ้า ทว่า , ท่านไม่เคยเห็นใจ
ความเจ็บปวดตรงซอกคอย้ำเตือนให้รู้ว่านี่คือความจริง
เป็นรูปธรรมอันสามารถจับต้องได้ ปลายนิ้วร้ายกดย้ำติ่งไตสีหวานซึ่งชูชันบนแผ่นอก ขบกัดและฟัด
ทำเหมือนลู่ฮานไม่ต่างอะไรกับตุ๊กตายัดนุ่น คนที่ด้อยทั้งกำลังรวมถึงชั้นเชิง จึงได้แต่ดิ้นเร่าด้วยความทุกข์ทรมาน
ก่อเกิดจากกองเพลิงแห่งความกระสันอยาก
ไม่ใช่ว่าอ่อนประสบการณ์
หากแต่ลู่ฮานไม่เคย ‘ รับ ’ ถึงแม้เคยอยู่ด้านล่าง นั่นก็เป็นเพราะพวกหญิงสาววัยสะคราญอาสาจะขึ้นให้
ภาคทฤษฎีที่ปฏิบัติมาตลอดคือถอด สอด แทรก กระแทก ไม่เคยมานอนอ้าขารอให้ใครเขาเข้ามาตักตวงความสุขจากร่างกาย
ซึ่งเกือบจะเรียกได้ว่าบริสุทธิ์
ปลดมือไล้ไล่เลี่ยบนแผ่นหลังนวลเนียน
ไต่เตาะแตะลงตามแนวกระดูกสันหลังจนกระทั่งถึงเส้นสะโพก โยกย้ายไปกดกระดูกก้นกบ
และนั่นทำให้เจ้ากวางพยศเริ่มถดตัวหนี
สัญชาติญาณสอนสั่งให้มนุษย์เรารู้ว่าเวลาใดอันตราย เวลาใดปลอดภัย ร่างเล็กจึงดิ้นรนหาทางรอดทุกทางทั้งๆ
ที่โอกาสความเป็นไปได้จะเหลือน้อยเพียงใดก็ตาม จังหวะเดียวกันนั้น
เซฮุนยอมผละกายล่าถอยกลับไปยังปลายเตียง เร่งรีบปลดอาภรณ์ทิ้งข้างเตียงอย่างรีบร้อน
จ้องมองเหยื่อตัวจ้อยที่ล่อนจ้อนด้วยแววตาหื่นกระหาย
กระเดือกกลืนก้อนน้ำลายพร้อมกับกดยิ้มพึงพอใจเมื่อเห็นว่าใบหน้าสวยหวานเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
โซ่เส้นหนาเอื้ออำนวยให้อิสระภายใต้การผูกมัดตามสมควร
ถึงจะถดหนีได้ทว่าก็ไม่ไกลจากเดิมมากนัก ชายร่างใหญ่จับกระชากห่วงเหล็กซึ่งร้อยเป็นเส้นยาวให้ลู่ฮานหงายหลังกลับมานอนบนเตียงดังเดิม
ใยจะปล่อยเวลาให้เสียไปโดยไร้ประโยชน์ อีกครั้งที่ชายหนุ่มกระโจนขึ้นคร่อมร่างน้อย
กักกันเอาไว้มิให้หลีกหนี
“
พยายามอีกหน่อย ลู่ฮาน เผื่อจะมีปาฏิหาริย์ช่วยให้นายรอดไปได้... ”
จ้องลึกเข้าไปในดวงตากลมโตที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้น “ แต่ฉันลืมไป...
ว่าพระเจ้าไม่ช่วยให้คนโสมมอย่างนายพ้นบ่วงกรรมในเร็ววันหรอก ”
ไม่ถามไถ่หรือเปิดโอกาสให้ร่างเล็กได้ทักท้วง
เซฮุนปาดลิ้นลงฟันบนตุ่มไตสีสดซึ่งชูชันแข็งขืนสู้ เสมือนกับเป็นพาร์ทเนอร์ที่รู้ว่าจุดไหนจะทำให้อีกฝ่ายสะบัดคราง
จุดไหนจะทำให้อีกฝ่ายต้องร้องขอความเมตตา
แม้จะเคยร่วมเคียงบนเตียงนอนกันมาไม่กี่ครั้ง
เนื้อต่อเนื้อเสียดสีกันเสริมสร้างความระอุ ดั่งลาวาปะทุในปล่องภูเขาไฟสูงตระหง่าน
ทุนเดิมร่างกายของลู่ฮานไม่ได้มีอุณหภูมิปกติอยู่แล้ว อะไรต่อมิอะไรมันจึงรุนแรงขึ้นไปตามลำดับ
วกกลับขึ้นมาขบกัดที่ซอกคอ
คลึงเค้นเนื้อนิ่มทั่วทั้งสรรพางค์กายด้วยมือหนาอุ่นร้อน
ทั้งเย้าทั้งหยอกหลอกล่อให้ติดกับ เป่าลมหายใจเข้าซัดบริเวณใบหูนิ่ม
ก่อนประคองส่วนความเป็นชายอันน่าเอ็นดูของอีกฝ่ายเอาไว้ด้วยอุ้งมือใหญ่
มีเท่านี้ริอาจไปไล่รุกใครให้อายเปล่า
กระตุกยิ้มเย้าเมื่อเห็นเจ้ากวางพยศเบือนหน้าหลับตาปี๋
ชักสาวราวรูดแผ่วเบาเป็นพิธีเพื่อลองเชิงลู่ฮานไปในตัว แตะนิดจับหน่อยก็สะดุ้งเฮือก
กลั้นครางอยู่ในลำคอจนกลายเป็นเสียงอู้อี้ บทเรียนสำหรับร่างเล็กมันไม่ใช่การแทรกกายเข้าไปในคราเดียว
หากแต่มันเป็นการเล้าโลมให้ทรมานจนทนไม่ได้
สุดท้ายจึงต้องยอมพ่ายและเป็นฝ่ายร้องขอ
มืออีกข้างไม่ว่างเว้นงานหลวง
เซฮุนวกกลับมาหยอกล้อกับยอดอกบวมช้ำเป็นครั้งที่สอง
ริมฝีปากร้อนนาบแนบลงบนใบหูนิ่ม เขี้ยวคมขบกัดประสานงานกับลมหายใจอุ่น กรุ่นกลิ่นน้ำหอมแบบผู้ชายโอบล้อมรอบเรือนกายบอบบาง
แม้ยามปกติมันจะยวนใจขนาดไหน ทว่าในเวลานี้ลู่ฮานกลับเกลียดเข้าไส้เข้ากระดูก
รู้ว่าแพ้ทางอ่อนโยนเลยใช้วิธีนี้โจมตีจนร่างน้อยตัวเหลวอยู่ตรงหน้า
ใช้ช่วงเวลาเล็กน้อยในตอนที่อีกฝ่ายกำลังหลับหูหลับตาย้ายเรือนกายไปนั่งซ้อนหลัง
ด้วยความสูงที่มากกว่าอยู่หลายขุม
การจัดท่าทางอาการเช่นนี้จึงไม่ใช่เรื่องลำบากอะไรนักสำหรับคุณหมอโอ เซฮุน
ทว่ามันคือหลุมพรางขนาดใหญ่สำหรับลู่ฮานเลยทีเดียว
ข้อมือไม่ถูกล่ามทว่าก็ทำอันตรายเขาไม่ได้
ยิ่งโดนชายใจร้ายร่างใหญ่ปรนเปรอด้วยเนื้อหยาบยิ่งรู้สึกขัดใจจนอยากกรีดร้อง
ลู่ฮานกดปลายนิ้วทั้งสิบลงบนฟูกนอนหนานุ่ม
สะบัดร่างดิ้นรนผลักดันให้เขาออกไปให้ไกลตา
มาตกอยู่ในอ้อมแขนเขาแผ่นหลังบอบบางจึงแนบสนิทชิดเชื้อกับแผ่นอกซึ่งมากด้วยกล้ามเนื้ออันแข็งแกร่ง
ร่างเล็กหอบหายใจอย่างอ่อนแรงเมื่อสัมผัสถึงความทรมานราวกับถูกเลี้ยงไข้
เขาเอายามาจ่อให้เห็นตรงหน้า พอจะเอื้อมมือไปคว้าเขาก็นำกลับไป แล้วแบบนี้เมื่อไรจะได้ปลดปล่อยให้มันเสร็จๆ
เสียที
กดจูบซับตรงซอกคอ
บดคลึงลูบไล้ยอดอกอ่อนไหวพร้อมทั้งยกสะโพกบดเบียดเสียดสี เห็นส่วนปลายของลู่ฮานปริ่มหยาดน้ำแห่งความต้องการ
ร้อยยิ้มร้ายจึงปรากฏบนใบหน้าคมคาย ส่วนมือใหญ่ก็หยุดขยับเคลื่อนไหวไปเสียดื้อๆ แล้วก็เหมือนรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดจะทำการใหญ่อันใด
เซฮุนจึงจัดแจงรวบมือน้อยทั้งสองข้างเอาไว้ด้วยอวัยวะชนิดเดียวกัน
“
อยากใช่ไหม... ”
สั่นกระเส่าและแหบพร่า
ไม่ต่างอะไรจากวาจาของฆาตกรโรคจิต
“
ขอฉันสิลู่ฮาน... ร้องขอฉัน ”
เพิ่มความวิปริตโดยการกดปลายนิ้วลงบนส่วนหัวชื้นแฉะ
“
แล้วฉันจะสนองมัน... ให้ถึงใจนายเอง ”
ทางเลือกมีแค่สองทาง
หนึ่งคือยอมทนทรมานให้เพลิงกามเผาไหม้ให้ตายตกกันไปข้าง สองคือยอมเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของตัวเองอีกครั้งเพื่อดับความต้องการที่วิ่งวนอยู่ในสายเลือด...
“
ฮ...อึก ! ”
“ หืม ? ตกลงยังไง ”
“
ยอม...ฮึก... ”
แผ่วเบาทว่าหากตั้งใจฟังก็ได้ยิน
เซฮุนเองก็ได้ยิน แต่มีหรือคนขี้แกล้งจะยอมให้ทุกอย่างมันจบลงที่คำว่ายอมพร้อมกับเสียงสะอื้น
บอกเลยว่าไม่สงสาร ร่างสูงพลิกกลับมาทาบทับร่างเล็ก
มองเห็นดวงหน้าสวยหวานเคลือบด้วยน้ำตาและปื้นแดงสีกุหลาบ
ยอมปล่อยให้ข้อมือน้อยเป็นอิสระ
เพราะตนตระหนักรู้ดีว่าอีกฝ่ายคงไม่มีเรี่ยวแรงจะลุกขึ้นมาสู้รบปรบมืออะไรอีกต่อไปแล้ว
ใบหน้าคมคลายเคลื่อนต่ำจนลมหายใจหลอมรวมเป็นสายเดียวกัน
จ้องลึกเข้าไปในดวงตากลมโตคู่นั้น ชายหนุ่มเห็นสิ่งๆ หนึ่งที่ตัวเองตามหามานาน
และเกือบจะปักใจเชื่อว่ามันไม่มีอยู่ในตัวลู่ฮานเสียแล้ว
พ่ายแพ้...
เซฮุนมองเห็นความพ่ายแพ้...
ยกมือขึ้นกางกั้นดันแผ่นอกหนา
ปล่อยหยาดน้ำตาให้หล่นไหลลงอาบข้างแก้ม
“
พอแล้ว...ฮึก...ฉันยอมแล้ว ”
ไม่ได้แสดงสีหน้าดีใจแต่กลับแสดงสีหน้าเรียบเฉยให้อีกฝ่ายรู้สึกหวาดกลัวเข้าไปกันใหญ่
เซฮุนใช้ช่องว่างเล็กๆ ระหว่างเวลาไม่กี่นาทีนั้นเคลื่อนมือต่ำลงไปเรื่อยๆ จนกระทั่งพบเจอกับช่องทางด้านหลังอันอ่อนนุ่ม
ปลายนิ้วหยาบกดแทรกชำแรกเข้าด้านในและถูกโอบล้อมเอาไว้ด้วยความระอุ
เรียวขาขาวทั้งสองข้างถูกบังคับให้แยกออกกว้าง
เปิดทางให้ชายหนุ่มปักหลักพักกายอยู่ ณ ตรงนั้นได้โดยไม่อาจมีปากเสียงใดๆ
ดวงหน้าสวยหวานผิดกับเพศกำเนิดเต็มไปด้วยความต้องการอย่างยากจะปิดบัง
พวงแก้มสีแดงเปล่งปลั่งระเรื่อคล้ายลูกตำลึงสุก เพราะมนุษย์ทุกคนเต็มไปด้วยความเห็นแก่ตัว
ขึ้นอยู่ที่ว่าใครจะมีมากหรือน้อย ,
คุณไม่สามารถปฏิเสธได้หรอกว่าคุณไม่มีมันอยู่ในกมลสันดาน
ลู่ฮานเองก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน รัก โลภ โกรธ หลง เหล่านั้นเป็นเรื่องปกติ และใช่
ความเห็นแก่ตัวด้วย เขาไม่ยอมอดรนทนอยู่กับความทรมานทั้งๆ
ที่ความช่วยเหลืออยู่ตรงหน้าแน่
อวัยวะแปลกปลอมซึ่งซอกซอนอยู่ในโพรงเนื้อร้อนเริ่มขยับชอนไช
แตะผนังอ่อนนุ่มเรื่อยไปจนถึงจุดกระสัน ร่างเล็กอดทนอดกลั้นไม่ยอมปล่อยเสียงครางออกมาจนใบหน้าแดงเห่อร้อนไปหมด
กอปรกับอาการปวดหนึบที่ศีรษะเร่งเร้าเข้าทำร้าย
ส่งผลให้น้ำหูน้ำตายิ่งหลั่งไหลออกมาอย่างห้ามเสียไม่ได้
เจ็บปวดทั้งใจทว่าร่างกายกลับสะท้านสุขสม
เนื้อนวลทั่วทั้งกายเต้นเร่าต้อนรับขับสู้การกระทำของเขา
ตกเป็นฝ่ายถูกกระทำแถมบนเพดานห้องยังไม่มีกระจกติดไว้เหมือนม่านรูด
ลู่ฮานจึงไม่อาจล่วงรู้ว่าตอนนี้ตนเองน่าชำเราขนาดไหน ว่ากันตามจริง
เซฮุนคือหนุ่มวัยกลัดมัน อารมณ์และความต้องการจึงอยู่ในระดับทะลุปรอท สวย หวาน
กว่าผู้หญิงคนใดที่เคยพานพบ ในยามปกติแม้จะน่าจับตบสั่งสอนให้เลือดกลบหากแต่ในตอนที่นอนทอดกายอยู่ใต้ร่างนั้น
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันน่าเสือกไสแกนกายเข้าใส่ขนาดไหน เสมือนผู้คุมกับนักโทษ
อยู่ด้วยกันนานๆ ไป
ก็เลยจำต้องพึ่งพาอาศัยเพื่อให้ได้ผลประโยชน์เกื้อกูลทั้งสองฝ่าย
ในกรณีนี้ก็เช่นกัน ลู่ฮานต้องการเซฮุนเพราะกระสันอยาก ส่วนเซฮุนต้องการลู่ฮานเพราะตัวเองอยากแก้แค้น
ตาชั่งแห่งความยุติธรรมจึงเท่าเทียมกัน
เป็นการแลกเปลี่ยนอย่างเที่ยงธรรมโดยพึงพอใจกับผลที่ได้รับทั้งสองฝ่าย
ความอดทนสิ้นสุดลงโดยไม่มีสัญญาณใดๆ
แจ้งเตือนให้ทราบ
ร่างสูงเดินหน้าบุกรุกนำพาความเป็นชายเข้าไปสำรวจในช่องทางอันร้อนระอุ เนื้อต่อเนื้อแนบชิดสนิทแน่น
ไม่ต่างจากรางไฟและปลั๊กที่สร้างมาเพื่อกันและกัน
ร่างน้อยกระตุกกระตุ้นตอบรับอย่างรู้การรู้งาน ไม่ต้องออกปากสั่งก็รีบทำหน้าที่อย่างคล่องแคล่ว
“
ดูสิลู่ฮาน ตรงนั้นของนายมันกำลังกลืนกินฉัน ”
กล่าวชักนำให้อีกฝ่ายหันลงมามองสองอวัยวะที่กำลังเชื่อมต่อกันอยู่
“
ฮ...ฮะ อ.. ”
บิดกายส่ายสะโพกด้วยไม่อาจอดรนทนไหวกับความเสียวซ่านที่แล่นริ้วทั่วทั้งสรรพางค์กาย
แกนเนื้อร้ายค่อยๆ สอดใส่เข้ามาภายในจนมิดด้าม
“
อ่าห์... ”
“
อึก… ”
“ ข้างในนี้ร้อนเป็นบ้าเลยลู่ฮาน ”
กระซิบเสียงซ่านข้างใบหู
นี่เขายังเห็นลู่ฮานเป็นคนอยู่หรือเปล่า
ใช่ว่าเกลียดขี้หน้าแล้วจะไม่รู้สึกกระดากอายเสียเมื่อไรกัน มือน้อยเหวี่ยงฟาดบนมัดกล้ามแน่น
“ ถ้าไม่พูดอะไรแล้วมันจะตายไหม ! อ๊ะ ! ”
นั่นเป็นคำพูดที่สุภาพที่สุดเท่าที่เซฮุนเคยได้ยินจากปากลู่ฮานในรอบสัปดาห์
มันก็น่ารักดีนะ ใช้ชีวิตเหมือนคนปกติกันบ้างก็ดี แต่พูดจาไม่เข้าหูเท่าไร
คุณหมอใจร้ายจึงเจตนาขยับกายกระทั้นเข้าไปเบาๆ
“ อย่าเกร็งนัก นายตอดจนฉันแทบจะคลั่งแล้ว ”
ตวัดสายตาใส่ด้วยความไม่พอใจ
คนพูดก็พูดได้สบายเพราะไม่ใช่คนแบกรับภาระทั้งหมด ปวดหัวปวดตัวไปหมดแล้ว
ไหนจะต้องมาอดรนกลั้นทนกับมวลอารมณ์มากมายนี้อีก ผิวกายขาวนวลซับสีชาด
เลือดฝาดสูบฉีดทั่วทั้งร่าง เซฮุนลืมไปเสียสนิทว่าตนเองเริ่มสงครามครั้งนี้ด้วยเหตุใด
คราแรกตั้งใจจะตีให้เนื้อลายทว่าในตอนนี้เขากลับสนใจแต่ลู่ฮานเท่านั้น น่ารักจนอยากฟัดให้จมเตียงกันไปข้าง
ไม่ใช่การลงโทษเพราะอ่อนโยนกว่าทุกๆ ครั้ง เหมือนเป็นการกลั่นแกล้งกันเสียมากกว่า
ดวงตาคมจดจ้องเพียงแต่ดวงหน้างดงาม
พร้อมขยับโยกสะโพกเนิบนาบตอบโจทย์ความต้องการของตนเอง
ได้ยินเสียงครางแล้วยิ่งได้ใจใหญ่
หยอกเย้าบุกรุกไม่เห็นใจคนใต้ร่าง ณ เวลาที่ห้วงอารมณ์อยู่เหนือเหตุผลทุกๆ อย่าง
อะไรก็ตามย่อมเกิดขึ้นได้ มือน้อยสอดเข้าในกลุ่มผมสั้นสีดำขลับ
ยกสะโพกรับหลับหูหลับตาคราง เลยไม่รู้ว่าลมหายใจเคลื่อนเข้าใกล้จนแทบไม่มีอะไรคั่น
ทว่าเหมือนพระเจ้าทรงมองเห็นทุกการกระทำ ท่านจึงบันดาลสั่งให้เปลือกตาสีอ่อนนั้นปรือเปิดขึ้นได้ทันท่วงที
ตาจ้องตา
ไม่ต่างจากการเปิดหน้าต่างหัวใจออกกว้าง ริมฝีปากจวนเจียนจะแนบสนิทชิดกัน
หากแต่คนบนร่างก็ผละออกไปเสียก่อน
ลู่ฮานจ้องมองการกระทำเหล่านั้นด้วยความไม่เข้าใจ
ก่อนทุกความคิดจะหลุดลอยไปเพราะสะโพกสอบเร่งโยกเข้ามาโดยไม่บอกกล่าว เพลิงกามลามไล้ทั่วผิวกายขาว
ริมฝีปากร้อนฟอนเฟ้นหยอกเย้า แต้มตำหนิสีแดงช้ำซ้ำทุกที่ที่ได้แวะผ่าน มือใหญ่ตะปบจับหมับบนเอวคอด
ตอกร่างเน้นย้ำเพื่อผลลัพธ์ของการแลกเปลี่ยนอันน่าพึงพอใจ
แรงกระแทกอัดส่งผลกระทบโดยตรงถึงระบบการทำงานต่างๆ
ของร่างกาย ลู่ฮานอ่อนแอเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นการยิ่งฝืนทำกิจกรรมอะไรก็ตามซึ่งเกินขีดจำกัด
เหล่านั้นย่อมทำให้พละกำลังลดน้อยร่อยหรอ เซฮุนไม่ราแรงเลยหลังจากแสดงทีท่าแปลกๆ
เขาเอาแต่ส่งร่างตัวเองเข้ามาตวงหาความสุขซ้ำแล้วซ้ำเล่า
มัวเมาอยู่ในรสกามาโดยหลงลืมสุขภาพของอีกฝ่าย ใส่ได้ครานี้เลยใส่ไม่ยั้ง
กะเอาให้ตายคาอกกันไปข้างหนึ่ง
หัวคลอนเสียงสั่นสดับรับไม่ได้สักภาษา
ลู่ฮานเกี่ยวเอวหนาด้วยขาทั้งสองข้างพลางกรีดเล็บลงบนแผ่นอก
เส้นผมสีน้ำตาลกระจายตัวบนหมอนขนเป็ดใบโต
ดวงหน้าสวยหวานซึ่งฉาบไปด้วยความต้องการมีเสน่ห์อย่างน่าอันตราย แก้วตากลมโตฉ่ำวาวปริ่มหยาดน้ำ
ริมฝีปากบางบวมแดงเนื่องจากการขบกัด ผิวสีขาวน้ำนมคงตัดกับสีเลือดนกเป็นอย่างมาก
เซฮุนกดยิ้มเมื่อหาข้ออ้างในการเปลี่ยนผ้าปูที่นอนใหม่ได้เสียที
ชายหนุ่มจงใจเน้นหนักตรงจุดกระสัน
เป็นแพทย์เรียนมาทุกทางเลยไม่ต้องลำบากคลำหาเหมือนคนอื่นๆ
หากเปรียบเทียบว่านี่เป็นเบสบอลเกมหนึ่ง
เซฮุนคงจะเป็นพิชเชอร์มือดีที่ถนัดทั้งลูกขว้างและลูกหยอด
ส่วนลู่ฮานคงไม่ต่างอะไรกับแบตเตอร์มือใหม่ ซึ่งเพิ่งเคยลงสนามเป็นครั้งแรก
สะโพกสอบเร่งระดมซอยใส่ร่างน้อยอย่างบ้าคลั่ง ซึมซับความกระสันซ่านก่อนปล่อยให้มันแล่นพล่านไปทั่วราวกับถูกกระแสไฟฟ้าดูด
หนึ่งคนทำหนึ่งอย่าง
อีกคนทำหนึ่งอย่าง
เซฮุนไม่รู้ว่าลู่ฮานต้องใช้ความพยายามมากมายถึงเพียงไหนในการประคองสติให้ยังคงอยู่
เส้นฟางบางๆ ได้ชื่อว่าความอดทน ขาดสะบั้นลงพร้อมกับเปลือกตาสีงาช้างที่ปิดสนิท...
กลับไปอ่านที่บทความ จิ้ม