มันค่อนข้างจะงี่เง่าเลยทีเดียวเพราะตอนนี้แบคฮยอนกำลังทำตามที่อีกฝ่ายขอร้อง
เขายอมกลับลงไปนั่งบนฟูกเตียงอีกครั้งตามแรงดึงรั้งของชายหนุ่ม
ไร้ท่าทีขัดขืนฝืนใจ ไร้สุ้มเสียงบอกกล่าวให้ปลดปล่อย
ได้แต่ยอมโอนอ่อนผ่อนตามทุกการกระทำ ไม่ว่าจะเป็นจับให้หันซ้ายขวา เขยิบเข้ามาใกล้
และท้ายที่สุดคือการที่ร่างบางถูกฉุดให้ขึ้นไปกองเกยบนหน้าตัก
โดยมีดวงตากลมโตฉ่ำน้ำจับจ้องอยู่ตลอดเวลา
ส่งสายตาประสานสอดออดอ้อน
แล้วยังจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของแบคฮยอนราวกับจะค้นความลับ
ลมหายใจอุ่นร้อนถี่กระชั้นเฉียดใกล้จนปลายจมูกของทั้งสองแตะชนกันเบาๆ
ชานยอลเอียงใบหน้ากระทั่งได้องศาที่เราสามารถจูบกันได้อย่างถนัดถนี่
เขาเริ่มแตะริมฝีปากหนาลงบนอวัยวะชนิดเดียวกันของอีกฝ่ายก่อน เขาค่อยๆ
ป้อนความร้อนระอุให้ เขาหลอมละลายร่างบางจากภายใน
แล้วเติมฟืนใส่ไฟฉุดรั้งให้ร่างบางดำดิ่งสู่ห้วงลึกของอารมณ์
เสียงปรบมือจะดังได้อย่างไรหากมันเกิดขึ้นจากมือเพียงหนึ่งข้าง
ร่างบางจึงเริ่มปล่อยใจตามหนทางที่ชานยอลชักจูง ชายหนุ่มไล่ปลายนิ้วไปตามสาบเสื้อ
ปลดเม็ดพลาสติกออกจากรังดุมทีละเม็ด...ทีละเม็ด และเมื่อเขาจัดการสิ่งกีดขวางด้านบนสำเร็จ
สัมผัสหยาบกร้านก็เลื่อนลุกล้ำเข้าไปแตะต้องแผ่นหลังเนียนละเอียดอย่างอุกอาจ
มันทำงานควบคู่กับกลีบปากซึ่งเริ่มทำนิสัยร้ายกาจราวกับสัตว์ร้าย
ร่างสูงตะกรุมตะกรามเหมือนคนอดอยากปากแห้ง
เขาร้อนแรงและเปรียบเสมือนเพลิงที่เผาไหม้ได้ทุกสิ่ง แต่เดี๋ยวก่อน , คำกล่าวที่ว่านั้นไม่รวมแบคฮยอนหรอกนะ เพราะหากถ้าจะวัดกัน...
ยิ่งกว่าชานยอลมันก็เขานี่ล่ะ
และหนึ่งสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้ในตอนนี้คือ
แบคฮยอนไม่เคยยอมตกเป็นรองของอีกฝ่าย
เริ่มตอบโต้ด้วยการรับจูบอย่างดูดดื่ม
เกี่ยวเกลียวลิ้นชื้นกลืนกินน้ำลายในโพรงปาก
แบคฮยอนเสพสมรสหวานปนขมจากน้ำเมรัยด้วยความคิดถึง หนึ่งมือน้อยค่อยเลื่อนเคลื่อนประคองแนวสันกราม
ส่วนอีกข้างก็ไล้ไล่ไปตามแผ่นหลังกว้างอย่างโหยหา
ปลายเล็บยาวกรีดเกี่ยวมัดกล้ามเป็นทางเพื่อสร้างรอยแผล
สะโพกกลมกลึงบดเบียดเย้าแหย่ส่วนความเป็นชายใต้ร่มผ้า
มือใหญ่เริ่มเลาะเลื้อยซุกซนเข้าไปบีบขยำบั้นท้ายของแบคฮยอนอย่างอุกอาจ
เลยถูกฝ่ามือฟาดไปหนึ่งฉาด ร่างบางถือโอกาสนั้นผละออกมากอบโกยอากาศเข้าปอด ทว่าชานยอลกลับใช้แอร์ไทม์ระหว่างที่เขากำลังเหนื่อยกระเง้ากระงอด
เดี๋ยวก็จูบซอกคอ เดี๋ยวก็พ่นลมใส่หู เดี๋ยวก็เอาจมูกมาดุนมาแอบหอม
แล้วคิดหรือว่าเขาจะยอม ? แน่นอน , ไม่ ! อยากตายคาอกไวๆ ทำไมไม่บอกตั้งแต่แรก !
แรงฮึดภายในสั่งแบคฮยอนให้สู้
เขาส่งปลายนิ้วเรียวไปเกี่ยวแกะเม็ดกระดุมของกางเกงสแล็คออกแล้ววางมือลงบนแกนกายใหญ่
ความระอุร้อนแผ่ออกมาให้เขารู้สึกได้ แม้จะไม่ใช่การสัมผัสโดยตรงก็ตามที ซ้ายบ้าง
ขวาบ้าง บนบ้าง ล่างบ้าง ร่างบางขยับนวดมันอย่างชำนิชำนาญเพราะอ่านทางอีกฝ่ายออกอย่างแจ่มแจ้ง
และเมื่อมันถูกกระตุ้นมากๆ
เข้า เป็นธรรมดาที่เราจะเก็บกักอารมณ์เอาไว้ไม่อยู่
เพียงแบคฮยอนมองตาชานยอลเขาก็รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการเขาถึงเพียงไหน
ร่างสูงตั้งท่าจะจับกดให้ร่างบางนอนราบลงไป แต่มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น , มือน้อยกางกั้นดันแผ่นอกหนาเป็นเชิงห้ามปรามว่าอย่าทำแบบนี้
แล้วยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะพูดอะไร
ปลายนิ้วชี้ของคนอายุน้อยกว่าก็แตะบนริมฝีปากหนา
ก่อนกล่าวประโยคประกาศสงครามออกมาด้วยเสียงแหบพร่าพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“ พี่ไม่ต้อง...
ให้ผมจัดการเอง ”
เป็นอันเข้าใจตรงกันว่างานนี้ชานยอลต้องอยู่เฉยๆ
ชายหนุ่มปรับเอนกายพิงหลังกับหัวเตียง
ชำเลืองมองแบคฮยอนซึ่งกำลังถดตัวถอยหลังไปนั่งคุกเข่าอยู่ตรงกลางหว่างขาทั้งสองข้าง
บรรจงกรีดปลายเล็บตามรูปทรงของแกนกายซึ่งโป่งนู่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัดใต้ร่มผ้า
ก่อนจะจับหัวซิบแล้วรูดมันลงมาจนสุด แล้วฉุดอาภรณ์ชิ้นดังกล่าวออก
ส่งผลให้ตอนนี้ร่างสูงเหลือเพียงกางเกงชั้นในสีเข้มซึ่งไม่อาจปิดบังอะไรได้อีก
ใจกล้าก้มหน้าลงไปขบกัดแกนกายพร้อมกับดวงตามุ่งมั่นราวกับกำลังจะฆ่าชานยอลให้ตายภายในไม่กี่วินาที
ปลายนิ้วไต่เตาะแตะราวกับเจอสิ่งที่ไม่เคยพบเห็น เขาบรรจงวาดนิ้วรอบๆ
ท่อนเอ็นร้อนระอุอย่างเชื่องช้า
“ ดูท่าจะอึดอัดไม่น้อยเลยนะครับ
”
นั่นไม่ใช่ความหวังดีแต่เป็นการเย้าให้เขาคลั่ง
ชานยอลสูดปากพลางส่งเสียงฮึมฮัมในลำคอ
“ แบบนี้...ก็คงทรมานแย่ ”
ปลายลิ้นชื้นแลบเลียรอยแยกตรงส่วนหัวผ่านร่มผ้า
ระหว่างนั้นก็ช้อนตามองไปด้วย
“ จะทานแล้วนะครับ :) ”
งับชั้นในด้วยฟันแล้วลากมันลงมากองตรงหน้าขา
เปิดศึกโดยการเปิดปากอ้ารับความเป็นชายเข้าไปมากกว่าครึ่ง
ซึ่งในส่วนที่แบคฮยอนไม่สามารถจัดการได้ เขาก็ใช้มือเข้าช่วย แล้วด้วยความที่ปาร์ค
ชานยอลไม่ได้มีขนาดเล็กเท่าไร การกระทบกระทั่งจึงเกิดขึ้น ( จากความตั้งใจ ) อยู่บ่อยครั้ง
ร่างบางเลาะเลียตลอดลำพร้อมทั้งกำรูดมันเป็นจังหวะ
บ้างก็ผละออกไปงับถุงเนื้อนิ่มด้านล่าง - ครู่หนึ่งก็ดูด
อีกครู่ก็อม เหมือนเด็กเพิ่งเคยลิ้มรสขนมเป็นครั้งแรก
แบคฮยอนเติมเต็มความต้องการของชานยอลได้อย่างพอเหมาะพอดี
ไม่มีตรงไหนที่มากไป ราวกับพระเจ้าสร้างพวกเขาให้เป็นชิ้นส่วนที่ขาดหายของกันและกัน
น้องรู้ดีว่ากระตุ้นที่ใดเขาจะกระสันจนแทบทนไม่ได้
รู้ว่าขยับตัวอย่างไรจะชักนำให้เขาคุ้มคลั่ง
แต่วิธีการเดิมดูเหมือนจะซ้ำจำเจสำหรับคนตัวเล็ก
แบคฮยอนจึงงัดไม้เด็ดออกมาใช้ ร่างบางถอนมือข้างหนึ่งออกไปสาละวนอยู่กับการแกะกระดุมสกินนี่ยีนส์ของตัวเอง
, ซึ่งแน่นอนว่าภาพเหล่านั้นล้วนตกอยู่ในสายตาของชานยอลทั้งหมด
เขาไม่ได้เมาจนไม่รู้ว่าน้องพยายามทำอะไร
มือบางกำลังล้วงลึกเข้าไปลูบไล้ความเป็นชายของตัวเองไปพลางระหว่างปรนเปรอเขา
อุณหภูมิในร่างกายของแบคฮยอนตีตื้นขึ้นมาเทียบเสมอชานยอลเมื่อเขาเริ่มช่วยตัวเอง
ร่างบางครางอื้ออึงเมื่อร่างสูงผงกหัวขึ้นมาช่วยดึงกางเกงทั้งชั้นนอกและในออกให้พ้นทาง
แถมยังสมนาคุณด้วยแรงฟาดเบาๆ ที่บั้นท้ายด้วยความหมั่นเขี้ยว ได้ทีเข้าหน่อยก็ทำตัวแก่นเซี้ยวเสียจนเขาอยากจะปราบให้เข็ดหลาบ
แกนกายขนาดกระทัดรัดกำลังขยายขนาดในอุ้งมือบาง
หลังจากที่มันถูกกระตุ้นจนเต็มที่ แบคฮยอนสาวรูดมันไปพร้อมๆ กับจังหวะการเข้าออกที่เกิดขึ้นบริเวณโพรงปาก
ใบหน้าน่ารักเริ่มฉาบสีชาดเมื่อแรงอารมณ์นั้นยากจะควบคุมไหว
ร่างบางเริ่มหอบหายใจไม่เป็นจังหวะ สะโพกผายเริ่มส่ายร่อนราวกับตนขยับโยกอยู่บนเรือนร่างกำยำของอีกฝ่าย
ผิวกายขาวนวลเริ่มปกคลุมไปด้วยหยาดเหงื่อ
แม้เครื่องปรับอากาศจะพยายามทำหน้าที่ช่วยเหลืออย่างเต็มที่
แบคฮยอนกำลังถูกความกระสันซ่านเล่นงานอย่างหนัก
นอกจากมือของตัวเองที่คอยชักรูดแล้วยังมีมือใหญ่คอยไล่ลวนลามบั้นท้ายไม่รู้จักจบสิ้น
น้องน้อยจึงโต้ตอบโดยการใช้เกลียวลิ้นเล่นงานพี่เขา เราเลยเสมอกันทั้งคู่
ทว่าไม่กี่นาทีหลังจากนั้นก็ดูเหมือนชานยอลจะนำอยู่หลายขุม
ร่างสูงเกร็งกายคล้ายใกล้จะปลดปล่อย เปลือกตาหนาปรือปรอยและค่อยๆ ปิดสนิท
เสียงเสียงครางในลำคอเริ่มติดๆ ขัดๆ
ซึ่งเหล่านี้บ่งชี้ชัดแล้วว่ามันกำลังจะเกิดอะไรขึ้นในช่วงเวลาต่อแต่นี้...
โอ้... ! ขอโทษที แบคฮยอนไม่ได้บอกพวกคุณหรือนี่ว่าเขาไม่ยอมง่ายๆ น่ะ
!
มือบางทำเพียงแค่จับรูดแกนกายลงมาจนสุด
แล้วหยุดทุกการขยับ ชานยอลขมวดคิ้วมุ่นเพราะถูกขัดอารมณ์กระสันซ่านซึ่งใกล้ถึงปลายทางอยู่รอมร่อ
เขาพยายามส่งสายตาอ้อนวอนขอให้น้องทำต่อแต่ก็ได้รับคำตอบกลับมาเป็นเพียงรอยยิ้ม และท่ามกลางความสับสนนั้นเอง
จู่ๆ แบคฮยอนก็ยกสะโพกขึ้นสูง ก่อนจะวาดขาคร่อมนั่งบนหน้าตักของร่างหนา
ดวงตาประสานดวงตา แล้วทิ้งท้ายด้วยคำพูดที่สามารถฆ่าอีกฝ่ายให้ตายได้ทั้งเป็น
“ ผมไม่ว่าหรอก...ถ้าพี่จะแตก
”
ลูบไล้แผงอกแกร่งซึ่งเต็มไปด้วยมัดกล้ามช้าๆ
“
แต่ผมมีข้อแม้... ”
อีกครั้งที่น้องยกบั้นท้ายขึ้นสูง
“
ถ้าพี่จะแตก... พี่ต้องแตกแค่ในตัวผมเท่านั้น ”
ก่อนทิ้งตัวลงเพื่อกลืนกินท่อนเนื้ออุ้นร้อนนั่นจนมิดลำ...
ถึงเจ็บจุกเหมือนใกล้ตายแต่แบคฮยอนจะไม่แพ้
เขาเริ่มจากการนั่งแช่ก่อนจะขยับโยกช้าๆ ไปข้างหน้าและหลัง
แต่ความร้อนของแกนกายมันไม่เคยคิดปรานีเขา เคยได้ยินไหมคนเมาร่างกายจะร้อนเป็นไฟ
แล้วคุณลองจินตนาการว่ามันเข้ามาในตัวคุณดูสิ
ครองสติได้อยู่แบบนี้ก็หาคำชมที่เหมาะสมยากแล้ว
และมันไม่เคยง่ายสำหรับแบคฮยอนหากเป็นชานยอล...
แต่คิดได้ตอนนี้มันก็สายไปเสียแล้ว
ในเมื่อเขาเดินหน้ามาขนาดนี้คงไม่มีทางหันหลังกลับ
ร่างบางจึงกัดฟันกลั้นใจยกสะโพกขึ้นลงเป็นจังหวะแม้มันจะเจ็บปวดราวกับกำลังถูกคร่าชีวิต
ปลายเล็บทั้งสิบกดกรีดจิกเป็นรอยแดงบนแผ่นหลังกว้าง แทนคำพูดว่าน้องน้อยทรมานถึงเพียงไหน
ทว่าดำรงอยู่ได้ไม่นาน มันก็หายไป...แล้วแทนที่ด้วยความรู้สึกใหม่
ซึ่งชื่อว่าความอยากเอาชนะ
แบคฮยอนจงใจคงเสื้อตัวบนไว้เพราะรู้ว่าพี่เขาชอบ
แล้วยังไม่ถอดถุงเท้าสีขาวที่ยาวขึ้นมาครึ่งแข้ง
ซึ่งชานยอลเคยพูดให้เขาได้ยินว่าเสื้อผ้าสีขาวยามมันอยู่บนเนื้อตัวแดงๆ
เพราะแรงอารมณ์มันน่าฟอนเฟ้นกัดกินยิ่งกว่าตอนเปลือยเปล่าเป็นไหนๆ , และในเมื่อครบองค์ประกอบแล้วจะรออะไร
? ร่างบางขย่มสะโพกเข้าใส่แกนกายขนาดใหญ่โดยไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม
ชานยอลเองก็ใช่ย่อยเสียที่ไหน
เมื่อความรุนแรงของน้องถาโถมเข้าใส่ก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่เขาจะกักเก็บความต้องการเอาไว้อีก
ชายหนุ่มเปรียบประหนึ่งราชสีห์หนุ่มซึ่งอดอยากปากแห้งมานานแสนนาน
ครั้นพออาหารอันโอชะเดินเข้ามาหาถึงที่มีหรือจะยอมปล่อยไปง่ายๆ
เขาพยายามสวนสะโพกส่งแกนกายเข้าไปให้ลึกที่สุด
ซึ่งมันทำให้น้องน้อยครางไม่หยุดเนื่องจากความเสียวซ่าน
เรียวขาขาวสั่นระริกราวกับกำลังจะล้มอยู่รอมร่อ
ทว่าแบคฮยอนก็กำลังสู้ยิบตาอย่างที่ตัวเองตั้งใจเอาไว้
เขาจะไม่ยอมให้ชานยอลชิงเสร็จก่อนไม่ว่าจะทางใด นอกจากการปล่อยมันเข้ามาในตัวเขา
ที่แน่ๆ อีกฝ่ายจะต้องจดจำคืนนี้ไปอีกนาน ร่างบางเชื่อเช่นนั้น
ยิ่งใกล้ยิ่งต้องเพิ่มจังหวะให้เร็วขึ้น
แบคฮยอนขย่มสะโพกอย่างเอาเป็นเอาตายพร้อมกับยินยอมให้ชานยอลรีดเร้นเค้นผลประโยชน์จากตัวเขาไปจนหมดสิ้น
ยอมให้ราชสีห์จำศีลกัดกินเนื้อหนังของกระต่ายแม้จะตระหนักรู้ในใจว่าเพียงครั้งนั้นไม่พออิ่มท้อง
มือบางจิกขยุ้มกลุ่มผมหนาหาที่ระบาย เมื่อร่างสูงละเลงลิ้นลงบนตุ่มไตสีชมพูบนแผ่นอก
แกนกายขนาดกระทัดรัดขยับเบียดเสียดสีลอนกล้ามหน้าท้องทั้งหกชักนำให้น้องน้อยยิ่งกระหาย
มือใหญ่เหวี่ยงฟาดบนบั้นท้ายงอนงามด้วยความหมั่นเขี้ยว
ที่ผ่านมาน่ะมันเป็นแค่บทเริ่ม
ปาร์ค ชานยอลยามเครื่องติดแล้วสามารถร้อนจนเผาไหม้ทุกสิ่งที่ขวางหน้าได้...
สุดท้ายแบคฮยอนกลั้นไว้ไม่ไหว
เขาหวีดร้องเสียงสูงด้วยความกระสัน ก่อนกระแทกสะโพกย้ำลงไปตรงจุดดังกล่าวนั้นอีกพักหนึ่ง
ซึ่งในที่สุดร่างบางก็ถึงอารมณ์หมาย เขารู้สึกราวกับมีใครเอาค้อนปอนด์ขนาดใหญ่มาทุบ
มันมึน มันงง มันเมา มันตีรวนวนปนกันจนมั่วไปหมด แต่อย่างไรความรู้สึกเสียวซ่านก็ยังเด่นชัดจนปฏิเสธไม่ได้
, แบคฮยอนรักผู้ชายคนนี้ รักทุกลีลาและความดิบเถื่อนที่เขามีให้ยามดุร้ายราวกับสัตว์ป่าอยู่ในฤดูผสมพันธุ์
ไม่แปลกใจเลยที่ใครต่อใครก็อยากลิ้มลองรสชาติความอันตรายนี้สักครั้งไม่ว่าจะต้องแลกมันด้วยสิ่งใด
หอบหายใจยังไม่ทันคล่องดี
พี่เขาก็จับพลิกให้แบคฮยอนนอนคว่ำ ยกสะโพกขึ้นสูงแล้วเสือกไสแกนกายเข้าไปจนสุด
แน่ล่ะ อีกฝ่ายไม่มีทางหยุดหากตัวเองยังไม่ถึงจุดหมาย
ทั้งยังเพิ่มดีกรีความดุร้ายขึ้นเป็นเท่าตัว
เขาส่งสะโพกหนากระทบบั้นท้ายนิ่มอย่างเอาเป็นเอาตาย
ลมหายใจของชายหนุ่มส่งเสียงฮืดฮาดด้วยความหื่นกระหายและกำหนัด
กามารมณ์ของชานยอลสาดซัดราวกับคลื่นยักษ์ลูกใหญ่
ร่างบางหวีดร้องครางเหมือนตนกำลังจะขาดใจ เมื่อปลายหัวร้อนระอุเสียดสีถูกจุดกระสัน
มือน้อยขยุ้มทึ้งดึงผ้าปูจนมันถูกรั้งออกจากขอบเตียง
“ Gosh ! Chanyeol ! FU*K ME !! ”
ร่อนสะโพกรับแรงขยับของชานยอล
แล้วยังเกร็งกล้ามเนื้อช่องทางด้านหลังให้ตอดรัดความเป็นชายของอีกฝ่ายอย่างบ้าคลั่ง
ซึ่งร่างสูงก็ตอบรับเสียงเรียกร้องดังกล่าวนั้นโดยการโหมสะโพกใส่ในจังหวะที่ไม่ว่าใครก็แทบตายทั้งนั้น
แถมยังจับร่างของแบคฮยอนให้พลิกกลับมาเผชิญหน้ากันอีกด้วย
แต่ดูเหมือนว่าการตัดสินใจดังกล่าวนั้นผิดมหันต์ เพราะน้องน้อยนั้นกำลังจะถึงจุดออกัสซั่ม
และมันแสนอันตราย
เนื้อตัวแดงเถือกเพราะเลือดไหลเวียนพล่าน
เส้นผมชุ่มน้ำกระจายทั่วหมอน ดวงตาเรียวรีฉ่ำวาวประดับแววออดอ้อนเรียกร้องให้ชานยอลก้มลงไปปล้ำจูบ
ริมฝีปากของทั้งคู่บดเบียดกันอย่างดูดดื่ม เกลียวลิ้นชื้นเกี่ยวพันจนแยกไม่ออกว่าเจ้าของคือใครแน่
พวกเขาใกล้กันเพียงแค่เสี้ยวลมหายใจคั่น ความคิดถึง โหยหา
ต้องการถูกส่งมอบให้กันและกันไม่รู้จบ
ซึ่งในที่สุดแสงสีขาวโพลนก็เริ่มเข้าครอบงำสติรับรู้ของชานยอลทีละเล็กทีละน้อย
เขาเร่งจังหวะการกระเด้าสะโพกจนส่งผลให้ศีรษะของแบคฮยอนโยกไปตามแรงกระแทก มือใหญ่แหวกเรียวขาขาวจนฉีกออกกว้าง
ก่อนจะกัดฟันกลั้นใจส่งแรงเฮือกสุดท้ายเข้าพุ่งชนตรงใจกลางความรู้สึกซ่านของน้องน้อย
แล้วจึงปลดปล่อยน้ำพันธุ์ให้ไหลวนอยู่ในช่องทางอุ่นร้อนดังกล่าวนั้นจนมันทะลักทะลายออกมาด้านนอก
เสียงหอบกระเส่าดังก้องหลังจากพวกเขาทั้งสองเสร็จกิจ เป็นแบคฮยอนที่รู้สึกราวกับถูกซานตายปลิดชีวิตทั้งๆ
ที่ตนยังหายใจอยู่ ส่วนอีกฝ่ายนั้นเนื่องจากไม่มีแรงเหลือสู้ฤทธิ์แอลกอฮอล์ได้
จึงปิดเปลือกตาหอบหายใจแล้วเข้าสู่ห้วงนิทราไปโดยไม่บอกกล่าว
.
.
.
งานเลี้ยงต้องมีวันเลิกลา
ซินเดอเรลล่าไม่เคยได้อยู่กับเจ้าชายในคืนวันงานเต้นรำ แบคฮยอนเองก็เป็นเช่นคำกล่าวนั้น
ทว่าแตกต่างกันตรงที่หล่อนยังมีโอกาสได้ทิ้งรองเท้าแก้วไว้ให้เจ้าชายตามหา ส่วนเขาต้องห้ามทิ้งร่องรอยใดๆ
ให้ชานยอลรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้นั้นเป็นเรื่องจริงหาใช่ความฝันไม่ ร่างบางเก็บกวาดซากความเสียหายและทำความสะอาดร่างกายของอีกฝ่ายให้เหมือนกับในตอนแรกที่ตนตั้งใจเอาไว้
แล้ววางแก้วใบใสคู่กับกระติกบรรจุน้ำอุ่นบนโต๊ะข้างเตียงให้แทนความเป็นห่วง
แบคฮยอนวาดยิ้มน้อยๆ
ประดับบนใบหน้า ก่อนประทับจุมพิตแทนคำบอกลาบนริมฝีปากหนาของอีกฝ่าย มือบางหยิบเสื้อโค้ทมาสวมทับสเวตเตอร์สีขาวเอาไว้ ก่อนสับสาวฝ่าเท้าเดินตรงออกไป แล้วหยุดลงตรงประตูไม้หน้าห้อง
, รอยยิ้มบนใบหน้าน่ารักนั้นยังไม่จางหาย แต่อย่างไรแบคฮยอนก็ต้องจากไปในคืนนี้
เขากระชับจับลูกบิดเย็นเฉียบแล้วแทรกกายย้ายออกจากพื้นที่ส่วนตัวของร่างสูงทันที
โดยทิ้งวลีสั้นๆ ฝากไว้กับสายลมเบาบางและหวังให้มันส่งถึงปลายทางอย่างถูกเวลา
.
.
.
“ See you again
, Sweetheart ”