วันอาทิตย์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2560

#absolutecy : 15 - Yours








ชเนศอดทนสกัดกั้นความรู้สึกมากมายในอกมาตลอดทั้งเดือนเพราะไม่อยากลงมือทำอะไรเกินเลยทั้งๆ ที่เราทั้งคู่ยังไม่ได้ใช้สถานะแฟนร่วมกัน หากแต่ในเมื่อเวลานี้น้องยอมตอบตกลงเลือกเขาแล้วมันก็ไม่มีเหตุผลใดให้จำเป็นต้องเกรงใจแม้กระทั่งเรื่องจูบ สิ้นคำสุดท้ายกลีบปากหนาก็กดบดเบียดชิ้นเนื้อนุ่มนิ่มสีชมพูด้วยความหิวกระกาย หากแต่ก็ยังคงไว้ด้วยความอบอุ่นไม่เสื่อมคลายด้วยไม่ต้องการไล่ต้อนให้บัณฑิตาหวาดกลัวจนเตลิดหนี ชายหนุ่มค่อยๆ แทรกลิ้นเข้าสำรวจภายในโพรงปากอุ่นอย่างเชื่องช้า ค่อยๆ ลิ้มรสความหอมหวานราวกับกลัวว่ามันจะเหือดหายไป แล้วจึงเริ่มเกี่ยวกระหวัดชักนำให้เด็กน้อยวิ่งตามเกมของผู้ใหญ่ได้ทัน



เขาเริ่มป้อนความร้อนแรงแทนที่สัมผัสอ่อนหวาน ผละออกมาให้น้องได้กอบโกยอากาศหายใจเพียงไม่กี่วินาทีก็กดจูบทาบทับอย่างเอาแต่ใจไม่รู้จบ เขาบรรจงเน้นย้ำและใช้ฟันขบกัดหยอกล้อกับกลีบปากบางทั้งด้านบนและล่าง ทำจนกระทั่งมั่นใจว่าหากมันมีความรู้สึกนึกคิดก็จะไม่มีฝ่ายใดได้รับความเอ็นดูด้อยไปกว่ากัน เปลือกตาสีอ่อนปรือปิดลงคล้ายจะจำยอมและโอนอ่อนกับสัมผัสที่ชายหนุ่มมอบให้ ชเนศจึงเริ่มคลายพันธนาการที่ข้อมือของอีกฝ่ายเพื่อใช้มันทำหน้าที่อย่างอื่น เมื่อครู่ตอนเข้ามาในห้อง เขาสังเกตเห็นว่าบัณฑิตาสวมชุดนอนสีฟ้าตัดเย็บจากผ้าเนื้อบางซึ่งเจ้าตัวโปรดปรานยิ่งกว่าอะไรดี ทั้งๆ ที่ไม่ถูกกับอากาศเย็นมากแท้ๆ นี่ขนาดสั่งจนปากเปียกปากแฉะให้หาอะไรอุ่นๆ ใส่แทนก็ยังไม่ปฏิบัติตาม ดูเอาเถิดว่ามันน่าลงโทษให้หลาบจำข้อหาดื้อแพ่งไม่รู้จักเวล่ำเวลาไหม



คิดได้เช่นนั้นมือใหญ่จึงเคลื่อนเลื่อนต่ำ บุกรุกอย่างอุกอาจเข้าสัมผัสผิวเนื้อเนียนละเอียดใต้ร่มผ้า เกลี่ยนิ้ววนเวียนรอบหลุมสะดือสร้างความปั่นป่วน ส่งผลให้น้องน้อยต้องส่งเสียงอื้ออึงประท้วงในลำคอ ลมหายใจสั่นไหวผิดจังหวะกระทั่งแผ่นอกสะท้อนขึ้นลงเหมือนคนเหนื่อยล้าจากการวิ่งมาหลายไมล์ แต่ชเนศไม่คิดใจดีกับเด็กดื้อ เขาบดจูบหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ราวกับคนไม่รู้จักพอ แลกน้ำลายวุ่นวายจนแยกไม่ออกว่าของใครเป็นใคร เกลียวลิ้นฟาดฟันกันอย่างเอาเป็นเอาตาย แม้หนึ่งฝ่ายจะตั้งรับแทบไม่ได้เลยก็ตามที ชายหนุ่มค่อยๆ ผละใบหน้าออกอย่างเชื่องช้าหลังจากกำปั้นน้อยๆ ทุบประท้วงบนหัวไหล่ แวะกดจมูกหอมพวงแก้มนุ่มนิ่มทั้งสองข้าง ก่อนจะเบี่ยงเบนความสนใจไปกลั่นแกล้งใบหูเล็กซึ่งไวต่อสัมผัสเช่นเดียวกันกับหน้าท้องและแผ่นหลังบอบบาง



เขาพ่นลมร้อนรด กดฟันขบเบาๆ หมายสร้างความวาบหวามให้ ขณะที่กำลังจะย้ายลงไปแกล้งงับบนซอกคอ กลิ่นหอมแปลกจมูกก็สร้างความประหลาดใจให้ชายหนุ่มต้องหยุดชะงัก บอกไม่ถูกว่ากลิ่นอะไร ทว่าไม่ใช่วานิลลาอุ่นๆ ที่น้องใช้อาบน้ำเหมือนทุกวันแน่ มันลึกลับกว่า น่าค้นหา ติดจะยั่วยวน ไม่ได้น่าทะนุถนอมเท่าที่ควรนักแม้จะยังมีวานิลลาเป็นเบสก็ตามที และต้องยอมรับเลยว่าเขาชอบมันยามที่อยู่บนเรือนร่างของน้อง เพราะมันเข้ากันดีกับกลิ่นประจำกายที่ไม่ได้ผ่านการปรุงแต่งเป็นปี่เป็นขลุ่ย ดังกล่าวนั้นจึงกลายเป็นจุดพลิกผันเล็กๆ ซึ่งส่งผลให้ชเนศเผลอปล่อยปีศาจร้ายที่ถูกกักขังไว้ภายในสัญชาติญาณดิบออกมาเพ่นพ่าน



ร่างสูงปล่อยทั้งกายให้เป็นไปตามกลไกธรรมชาติ เขาปาดลิ้นลงลิ้มรสเนื้อนุ่มหอมที่ล่อตาล่อใจอยู่เบื้องหน้า ทาบจุมพิตหนักๆ บนแอ่งชีพจรพร้อมทั้งดูดดุนมันจนกระทั่งขึ้นจ้ำเลือดสีแดงจาง มือใหญ่ถอนกำลังจากการรุกรานหน้าท้องแบนราบมาปลดกระดุมเม็ดเล็กที่ถูกกลัดเอาไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยให้หลุดออกจากพันธนาการแสนน่ารำคาญ ใบหน้าหล่อเหลายอมผละออกมาจากซอกคอเพื่อใช้สายตาที่อันเปี่ยมด้วยแรงปรารถนามองสาบเสื้อซึ่งค่อยๆ แยกออกจากกัน จนเผยให้เห็นผิวเนื้อเนียนละเอียดไร้รอยตำหนิราวกับผ้าใบวาดภาพ ปลายนิ้วหยาบลากสัมผัสตั้งแต่แนวไหปลาร้ายาวลงมาถึงท้องน้อย ชื่นชมเรือนร่างสมส่วนของเด็กดื้อที่ขโมยใจเขาไปทั้งดวงพร้อมกับเสียงฮึมฮัมในลำคอ



คำว่าตัวเล็กดูเป็นความจริงที่ชเนศไม่อาจปฏิเสธได้เมื่อเขาได้เห็นรูปร่างของบัณฑิตา รู้อยู่หรอกว่าภายใต้สูทและเชิ้ตตัวหนาคงมีอะไรให้เขาประหลาดใจได้ไม่น้อย แต่ไม่คิดว่ามันจะมากมายจนดวงตาแทบฝ้าฟางเช่นนี้ น้องมีเนื้อ มีหนัง มีกล้ามเนื้อครบตามประสาเด็กวัยกำลังโต ทว่าถึงจะเป็นเช่นนั้น อย่างไรยามแตะสัมผัสก็ยังนุ่มลื่นมือ หาได้แข็งเป็นไตคล้ายคนที่ออกกำลังกายเป็นบ้าเป็นหลังอย่างเขาไม่ ช่วงเอวคอดเล็กน้อยกับสะโพกผายออกเหมือนจะฆ่าชายหนุ่มให้ตายได้ทั้งเป็น เอาจริงๆ ก่อนเจอโบก็ใช่ว่าชายหนุ่มจะไร้ประสบการณ์ ผู้ชายอายุเท่านี้ไม่มีผู้หญิงชั่วคราวมานอนทอดร่างให้ระบายอารมณ์มันเป็นคำกล่าวที่โกหกหลอกลวงทั้งเพ เขาไม่ใช่พระอิฐพระปูนเสียเมื่อไร เรื่องใต้สะดือมันปกติเสียยิ่งกว่าอะไรดี แต่เชื่อเถอะว่าไม่เคยมีใครทำให้ชเนศรู้สึกหลากหลายได้เท่าน้องอีกแล้ว



ปีศาจร้ายครอบงำทุกหน่วยความคิดควบคุมกลไกธรรมชาติของมนุษย์ ชายหนุ่มเคลื่อนกายกลับมาทาบทับน้องน้อยอีกครั้ง ก่อนจะเริ่มใช้ริมฝีปากทำหน้าที่ไม่ต่างจากพู่กันเปื้อนสีละเลงรอยตำหนิทั่วผิวเนื้อเนียนละเอียด ปาดเกลียวลิ้นลงสัมผัสยอดอกสีชมพูซึ่งแข็งขืนสู้ตั้งแต่คราแรกที่ละเลงน้ำลายลงไป ครูดฟันทิ้งสัมผัสวาบหวามเรียกเสียงครางหวานให้ได้ยินเป็นระยะ ส่วนอีกหนึ่งข้างที่ยังว่างก็ไม่ปล่อยให้น้อยใจ เพราะชเนศใช้ปลายนิ้วหยาบปรนเปรอมันจนโบพยายามบิดตัวหนีอยู่หลายต่อหลายครั้ง บัณฑิตากำลังทรมานกับสัมผัสแปลกใหม่ที่เขามอบให้ ร่างเล็กถีบเท้าจนผ้านวมหล่นร่วงลงไปกองกับพื้นพรม สองมือน้อยปัดป่ายพยายามผลักไสให้หยุดกระทำ ทว่ายามความเห็นแก่ตัวเป็นใหญ่ แม้เอาช้างทั้งโขลงมาฉุดยังไงก็หยุดไม่ได้



ฝ่ามือใหญ่กดสะโพกผายให้อยู่นิ่ง ตรึงเรียวขาด้วยอวัยวะเดียวกันหากแต่มีพละกำลังมากกว่า ริมฝีปากร้อนลากไล่ทิ้งรอยฟันขบเอาไว้ทุกพื้นที่ที่แวะผ่าน ลมหายใจรินรดผิวเนื้อและส่งผลให้ขนอ่อนลุกชันทั่วทั้งสรรพางค์กาย กระทั่งถึงหลุมสะดือก็ยังไม่ว่างเว้นแต่งแต้มตำหนิเอาไว้โดยรอบ ปลายจมูกโด่งสูดดมกลิ่นแปลกใหม่ซึ่งเด่นชัดขึ้นมาเมื่อใบหน้าเคลื่อนต่ำลงมาหยุดที่บริเวณท้องน้อย ชเนศหูอื้อ ตาพร่า ถูกครอบงำสัมปชัญญะไปมากกว่าครึ่ง เขาไม่รู้ว่าตัวเองอ้าปากงับขอบยางยืดกางเกงของบัณฑิตาเมื่อไร ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเพราะเหตุใดสองมือจึงเลื่อนเข้าไปสอดช้อนบั้นท้ายกลมกลึงแล้วบีบขยำ รู้ตัวอีกทีก็ตอนได้ยินเสียงหวานร้องห้ามจนดังก้องทั่วห้องสี่เหลี่ยม



ฮื้อ ! ค…คุณชเนศครับ ! หยุดก่อน ! ”



มือน้อยเอื้อมลงมาจับศีรษะของเขาไว้ไม่ให้เคลื่อนลงต่ำ สติที่เคยหลุดหายไปเริ่มประกอบกลับเข้าที่เข้าทางอีกครั้งหลังจากชายหนุ่มได้ลงมือกระทำการอุกอาจ ชเนศจำได้ว่าตัวเองแค่อยากจูบ และบอกน้องเอาไว้เท่านั้น ไหงเขาจึงปล่อยตัวเองให้ทุกอย่างมันเกินเลยมาจนถึงขั้นนี้ได้ ชายหนุ่มกัดริมฝีปาก ปิดเปลือกตา สูดลมหายใจเข้าออกเป็นจังหวะเพื่อช่วยให้ทุกระบบกลับมาทำงานร่วมกันได้อย่างสมบูรณ์ ก่อนจะคลายพันธนาการ คืนความอิสระให้กับบัณฑิตาซึ่งนอนหอบหน้าแดงอยู่ใต้ร่าง เสื้อผ้าหลุดลุ่ยและเกือบเปลือยอยู่รอมร่อ กางเกงนอนถูกลากลงมากองเกี่ยวใกล้หลุดออกจากสะโพก และตอนนั้นเองที่คนเป็นพี่ได้มีโอกาสเห็นความเสียหายซึ่งปรากฏประปรายบนผิวเนื้อเนียน



ผมขอโทษ... คุณแต่งตัวเถอะ ”



ไวเท่าความคิด ชายหนุ่มหยัดกายย้ายลงไปยืนนิ่งอยู่ที่ข้างเตียง เขาผ่อนลมหายใจหนักๆ เมื่อเห็นสภาพไม่สู้ดีของบัณฑิตา นึกโทษตัวเองที่ปล่อยให้สัญชาตญาณดิบออกมาวิ่งเล่นเพ่นพ่านไม่เป็นเวล่ำเวลาจนเกือบทำลายทั้งร่างกายและจิตใจของอีกฝ่ายจนยับเยินไปแล้ว



“ ... ”



วันนี้ผมจะไปนอนห้องลมหนาว จัดการตัวเองเสร็จแล้วก็รีบนอน ราตรีส--- ”



ชเนศละอายใจที่ลงมือทำอะไรโดยไม่ไต่ถามความสมัครใจของน้อง และเขาคงไม่อาจอยู่สู้หน้าบัณฑิตาได้ในสภาพเช่นนี้ ชายหนุ่มจึงคิดหาทางแก้ความกระอักกระอ่วนดังกล่าวนี้โดยการแยกออกไปอยู่อีกห้อง ปล่อยให้น้องแต่งเนื้อแต่งตัวและนอนในห้องใหญ่ หากทว่ายังไม่ทันที่เสียงทุ้มจะสานต่อประโยคบอกเล่ากึ่งบอกลาของตัวเองเสร็จสิ้น น้องน้อยก็พูดขัดจังหวะขึ้นมาเสียก่อน



ทำไมต้องไปด้วยล่ะ...



แล้วทำไมตอนพูดต้องทำตาฉ่ำตาเยิ้ม ทำไมต้องค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งคุกเข่าบนเตียงนั่งโดยไม่ใส่ใจว่าเสื้อนอนมันจะหล่นลงไปกองคาอยู่ตรงข้อศอกและปล่อยให้ร่างกายส่วนบนเปลือยเปล่าเห็นไปถึงไหนต่อไหน ทำไมไม่ยอมดึงกางเกงมาสวมดีๆ รู้ไหมว่าขอบยางมันจะหลุดออกจากสะโพกอยู่แล้ว ไหนจะน้ำเสียงอ่อนๆ ราวกับออดอ้อนนั่นอีก ที่ยืนอยู่นี่คนไม่ใช่พระอิฐพระปูน มีอารมณ์ มีความรู้สึกนึกคิด แถมความอดทนตอนนี้ก็ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน เล่นทำกันอย่างนี้เขาก็แย่สิ 



ถ้ามันไม่จำเป็นมีหรือเขาจะอยากไปไหน ใครก็อยากอยู่กับแฟนกันทั้งนั้น หากทว่าในความจริงไม่มีกองเพลิงใดบนโลกใบนี้ถูกดับได้ด้วยน้ำบ่อน้อย ชายหนุ่มหวังให้บัณฑิตารู้ว่าความต้องการที่ไหลเวียนอยู่ภายในกายชายวัยกลัดมันไม่ใช่อะไรที่ใครก็ได้จะรับไหว อีกทั้งยังไม่สามารถบรรเทาให้หายได้ด้วยจูบหรือการกอดสัมผัสเท่านั้น มีหลายเรื่องที่ผู้ใหญ่เขาทำกัน และเด็กอย่างโบคงไม่เข้าใจ ดูจากเมื่อครู่ที่หวีดร้องขอให้หยุดนั่นก็พิสูจน์อะไรได้ตั้งหลายอย่าง



ก็คุณร้อง-- ”



โบแค่จะขอให้ดับไฟ...



ชเนศตั้งใจจะอธิบายว่าที่เขาต้องไปเพราะน้องร้องห้ามด้วยความหวาดกลัว แต่ยังไม่ทันได้ขยายความอะไรเจ้าตัวน้อยก็เปิดปากพูดแทรก ดวงตาเรียวรีเหลือบมองสวิชไฟบนหัวเตียงประกอบประโยคช็อกโลกที่ทำเอาเจ้าของตำแหน่งเจ้านายรู้สึกเหมือนถูกฟาดด้วยค้อนปอนด์จนเบลอไปหมด ช่วงแขนเล็กยืดเอื้อมส่งปลายนิ้วขยับหมุนดิมเมอร์ให้หลอดไฟภายในห้องหรี่ลงจนเหลือเพียงแสงสลัว



อย่าทำแบบนี้ ”



เตือนครั้งที่หนึ่ง ชเนศสูดลมหายใจ พยายามไม่มองใบหน้าน่ารักซึ่งเต็มไปด้วยความออดอ้อนและเว้าวอนอย่างเห็นได้ชัด โบคงไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเผชิญกับสถานการณ์แบบใดเลยพูดออกมาเช่นนั้น น้องคงคิดว่าเรื่องที่จะเกิดขึ้นมันง่ายดายเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา



คุณชเนศก็ห้ามไปไหนสิ



บัณฑิตา ผมเตือนคุณแล้วนะ ”



เตือนครั้งที่สอง ก็พูดอยู่ว่าอย่าทำๆ เด็กอนุบาลฟังยังรู้เลยว่านั่นคือการสั่งห้าม แต่สำหรับบัณฑิตาในเวลานี้คงไม่ต่างจากการยั่วยุให้ยิ่งคิดสั้นลงมือกระทำสิ่งที่จะนำภยันตรายมาสู่ตัว เสียงหวานนั้นสั่นเครืออยู่ในลำคอ พูดมันออกมาอย่างเอาแต่ใจ ดวงตาฉ่ำน้ำสะท้อนประกายแสงไฟสีนวลจนส่งผลให้มันดูเหมือนดวงดาวซึ่งประดับอยู่บนท้องฟ้า



อยู่กับโบนะ



บัณฑิตา ”



เตือนครั้งที่สาม ชเนศว่าเสียงต่ำก่อนกัดฟันกรอด เขากดเปลือกตาปิดเพื่อป้องกันไม่ให้ความอดทนที่มีอยู่น้อยนิดต้องพังทลายลงอย่างง่ายดาย ชายหนุ่มพยายามนับหนึ่งถึงห้าให้ใจเย็นลงมากกว่าที่เป็นอยู่ ขณะที่หูได้ยินเสียงเนื้อผ้าขยับเสียดสี ซึ่งอีกไม่กี่วินาทีให้หลังก็มีสัมผัสเบาบางเกิดขึ้นบนหลังฝ่ามือใหญ่ ลากไล้วนไปมาสร้างความวาบหวามจนใจเต้นไม่เป็นส่ำ



ทำต่อกันนะ...



น้องโบ ! ”



เตือนครั้งที่สี่ ชเนศเป็นพี่ใหญ่ โตกว่าน้องเจ็ดปี เขาต้องมีความอดทน มีวุฒิภาวะ มีสติรู้สำนึก รู้ยับยั้งชั่งใจ แม้โบจะพูดอะไรออกมาเขาก็จะไม่นำพาให้มันกลายเป็นเรื่องจริง ชายหนุ่มขึ้นเสียงปรามเจ้าตัวน้อยที่บัดนี้คลานเข่ามานั่งนิ่งอยู่ข้างเตียง มือน้อยๆ สอดจับอวัยวะชนิดเดียวกันของเขาเอาไว้แน่นพร้อมทั้งออกแรงดึง ปลายคางมนเชิดเงยเพื่อช้อนดวงตามองใบหน้าหล่อเหลาราวกับจะขอร้องให้ปฏิบัติตามคำกล่าวแสนอุกอาจ ใครเขาช่างสอนให้บัณฑิตาพูดจาแบบนั้น สภาพตัวเองตอนนี้ก็น่าปลุกปล้ำน้อยเสียที่ไหน ให้ทำต่อ ? รู้หรอว่าทำต่ออะไร ? แล้วรู้ไหมว่าไอ้ที่เขากำลังพยายามนิ่งงันเป็นหุ่นปั้นแบบนี้ก็เพื่อปกป้องอีกฝ่ายจากตัวเอง 



ร่างสูงเริ่มนับเลขถอยหลังใหม่อีกครั้งหลังจากเจอพายุไซโคลนลูกแรกซัดจนความคิดกระเจิดกระเจิง หวังเป็นอย่างยิ่งว่าตนเองจะใจเย็นลงและเป็นฝ่ายคว้าชัยชนะเหนือสัญชาตญาณดิบได้โดยง่ายในหนนี้


5


4


3



พี่จ๋า...ทำต่อกันเถอะนะ



ไม่ต้องยงไม่ต้องเย็นมันแล้ว !



นอกจากจะไม่ช่วยกันแล้วยังบั่นทอน เห็นทีคงต้องสั่งสอนให้หลาบจำจริงๆ ว่าอย่าได้ริอาจเล่นกับไฟ มาพี่จ๋งพี่จ๋าพร้อมทำหน้าแบบนั้นใครทนได้ก็คงบรรลุเป็นพระอรหันต์ ไม่ต้องมานั่งรับกรรมทรมานกับความน่ารักไม่จบสิ้นของเด็กดื้อที่นับวันจะยิ่งแผลงแสดงฤทธิ์เดชให้เห็น ชายหนุ่มสอดมือยกเรือนร่างบอบบางซึ่งนั่งทำหน้าตาน่ารังแกโยนลงไปนอนแผ่อยู่กลางฟูกหนา ส่วนตัวเองก็คลานเข่าขึ้นมาคร่อมทับพร้อมปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตอย่างรีบร้อน ถอดเหวี่ยงมันไว้สักที่ข้างเตียงนอน และในตอนนั้นเองที่กล้ามเนื้อแข็งแรงสมชายมีโอกาสได้ออกมาอวดสายตาของน้องน้อยอีกครั้ง บัณฑิตามองมันพร้อมกับพวงแก้มซับสีแดงจาง ชเนศกดยิ้มข้างมุมปากด้วยความลำพองใจ เขาทั้งเข้ายิมและว่ายน้ำไม่เคยขาด ออกกำลังกายอย่างหนักหวังบำบัดความเครียดจากภาระงานล้นมือ ไม่เคยเห็นประโยชน์อื่นใดจากความสมบูรณ์แบบของมันจนกระทั่งวันนี้



ร่างเล็กกัดริมฝีปากชั่งใจ แววตาเต็มไปด้วยความสับสนอยู่พักใหญ่ก่อนจะตัดสินใจยื่นปลายนิ้วแตะสัมผัสแนวกล้ามเนื้ออย่างกล้าๆ กลัวๆ โบเคยแต่มองแล้วจินตนาการว่าหากได้จับสักครั้งจะรู้สึกเช่นไร มันจะเป็นอย่างที่เดียร์เคยพูดให้ฟังจริงๆ ไหม ซึ่งก็เห็นได้ชัดแล้วว่านั่นไม่ใช่โฆษณาคุยเลยสักนิด มันดีเพราะเรารู้ว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไร มันดีเพราะเราไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากคนดีที่หนึ่งเข้าหากันบนเตียง เพราะสุดท้ายเราจะเหลือเพียงร่างกายเปลือยเปล่ากับหัวใจที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน เจ้าของร่างกำยำครางฮึมฮัมในลำคอแสดงความพออกพอใจ ให้สิทธิ์อิสระกับน้องน้อยซึ่งไม่เคยมีประสบการณ์แต่ก็ยังทำตัวเหมือนเก่งกล้ามาจากไหน 



เขาเฝ้ามองนิ้วเรียวยาวราวกับของขวัญจากพระเจ้าลากไล้วนขึ้นไปบนแผงอกแกร่ง วกกลับมาหาลอนกล้ามหน้าท้องหกลูกซึ่งขึ้นให้เห็นอย่างเด่นชัด และนั่นเป็นจังหวะที่ชายหนุ่มค้อมกายลงมาทำมุมสี่สิบห้าองศาในแนวราบกับเรือนร่างบอบบาง มือน้อยยังคงเคลื่อนลงต่ำจนกระทั่งผ่านหลุมสะดือ พบกับวีไลน์ที่ใครต่อใครก็พากันอิจฉา ทว่าก่อนทุกอย่างจะเลยเถิดลัดขั้นตอนเตลิดไปไกล มือใหญ่ก็หยุดยั้งทุกอย่างเอาไว้ด้วยพันธนาการอันแน่นหนา



อย่าหาเรื่อง



เขากดเสียงสั่ง ก่อนประทับจุมพิตลงบนกลีบปากบางอย่างไม่เบาแรงนัก แต่ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายจะทำให้น้องต้องรู้สึกเจ็บแสบ ชเนศดูดดึงชิ้นเนื้อนุ่มหยุ่นราวกับกำลังลิ้มลองเจลาตินรสน้ำผลไม้ ครู่หนึ่งก็ผละออกไปขบเบาๆ ที่ติ่งหูนิ่ม เกลียวลิ้นร้อนช่วยสรรสร้างความวาบหวามรัญจวนใจในช่องท้อง ท่อนแขนซึ่งเต็มด้วยมัดกล้ามสอดช้อนช่วงเอวคอดและแผ่นหลังให้ลอยขึ้นจากฟูกเตียง ส่งผลให้แผ่นอกขาวแอ่นโค้งขึ้นมาตามแรงยกด้วยเช่นกัน ชายหนุ่มเริ่มละเลงน้ำลายลงบนตุ่มไตแข็งขืน สะกิดมันด้วยซี่ฟัน กดขยี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ขณะฝ่ามือข้างที่ยังว่างค่อยๆ เลื้อยลงต่ำ ฉุดรั้งกางเกงขายาวซึ่งจะหลุดแหล่มิหลุดแหล่ออกจากสะโพกผายไปกองบนพื้นได้ในคราเดียว



บัดนี้บนเรือนร่างบอบบางจึงมีเพียงชั้นในและเสื้อนอนที่ถึงมีอยู่ก็ไม่ได้ช่วยบดบังอะไร น้องน้อยตัวอ่อนเป็นขี้ผึ้งลนไฟเมื่อแผ่นหลังถูกรุกราน ผิวสัมผัสของปลายนิ้วหยาบลากตามแนวกระดูกสันหลัง ครางเครือเสียงสั่นในลำคอ มือเล็กปัดป่ายหาที่เกาะเกี่ยวซึ่งสุดท้ายแล้วก็ไม่พ้นปีกไหล่กว้างไปไหน กระแสลมหายใจขาดห้วงเมื่อเจ้าของร่างใหญ่ฉวยโอกาสตักตวงพร้อมทั้งกระตุ้นให้อุณหภูมิกิจกรรมพุ่งสูงขึ้นในคราวเดียวกัน กำแพงความอดทนของชเนศกลายเป็นเพียงแค่บล็อกพลาสติกต่อเมื่อพบเชื้อไฟชั้นดีที่ชื่อบัณฑิตา ชเนศเบื่อการเป็นสภาพบุรุษเต็มกลืน เขาเหนื่อยที่จะแสร้งทำเป็นหุ่นปั้นให้น้องปั่นหัว ถ้าอยากยั่วกันมากนักล่ะก็ วันนี้เขาจะตีให้หลาบจำกันไปข้าง



เขาวางน้องน้อยกลับลงไปนอนแผ่บนเตียงอีกครั้ง จ้องมองใบหน้าน่ารักซึ่งบัดนี้เปี่ยมไปด้วยแรงปรารถนาด้วยความรู้สึกหลากหลาย เปลือกตาสีอ่อนปิดพริ้มกอบโดยลมหายใจเข้าปอด แผ่นอกบางสะท้อนขึ้นลงเป็นจังหวะไม่คงที่นัก เขาจึงฉวยโอกาสขณะที่บัณฑิตากำลังจดจ่อกับเรื่องส่วนตัวเกี่ยวชั้นในรัดรูปให้หลุดร่นลงจากสะโพก และปฏิกิริยาตอบรับในทันทีคือการที่เจ้าตัวเล็กร้องฮือพร้อมทั้งส่งมือมาปิดบังส่วนกลางลำตัวน่ารักน่าชังไม่ให้มันอวดอ้างแก่สายตาคมกริบ เขาส่งเสียงหัวเราะเมื่อเห็นว่าน้องเหวี่ยงส่งวงค้อนมาให้ หากก็ไม่ได้ใส่ใจเอาความเพราะยังต้องกลั่นแกล้งโบต่อ



เขาเคลื่อนตัวลงต่ำ จับบังคับให้เรียวขาทั้งสองตั้งชันเพื่อทาบประทับจูบบนต้นขาด้านใน สัมผัสผิวเนื้อเนียนนุ่มน่ารังแกซึ่งมีกลิ่นหอมเย้ายวนตราตรึงทุกตารางนิ้วที่แวะผ่าน ชายหนุ่มนึกมันเขี้ยวจึงอ้าปากงับจนเป็นรอยฟันตั้งหลายหน ทำเอาคนถูกปรนเปรอสะกดกลั้นเสียงครางไม่เคยได้ ไหนจะคอยถดยกสะโพกหนีอยู่ร่ำไป เดือดร้อนให้ชเนศต้องสอดแขนรัดตรึงน้องน้อยไว้กับที่ อำนวยความสะดวกให้งานนี้เสร็จสิ้นด้วยดีไม่มีติดขัด ใบหน้าหล่อเหลาวุ่นวายกับการทิ้งสัมผัสซึ่งแสดงถึงความรักและหวงแหนแสนสุภาพตรงหว่างขาอยู่พักใหญ่ กระทั่งผละออกมาเห็นภาพน่าพึงพอใจแล้วจึงยอมรามือ



เป้าหมายถัดไปคือแกนกายขนาดกะทัดรัดที่เจ้าตัวดูจะหวงแหนเสียเหลือเกิน ถูกกระตุ้นจนอยากมากขนาดนี้แล้วแท้ๆ ยังดื้อแพ่งปิดบังไม่ปล่อยให้เขาจัดการ ชเนศจึงต้องงัดวิธีการหลอกล่อโดยวกกลับไปจุมพิตกดย้ำช่วงชิงลมหายใจที่ริมฝีปากบาง ป้อนรสชาติของความเป็นผู้ใหญ่ให้เด็กน้อยสั่นซ่านไปทั้งสรรพางค์กาย ชักนำจนกระทั่งบัณฑิตาประมาทว่าตัวเองปลอดภัยจากการบุกรุกอันอุกอาจ ปราการจากสองมือน้อยเริ่มคลายความแน่นหนา ละเลยหน้าที่ปกป้องส่วนอ่อนไหว เปิดโอกาสให้ชายหนุ่มแทรกฝ่ามือใหญ่ของตัวเองเข้าไปกอบกุมมันได้ในที่สุด เขากระตุกยิ้มเมื่อรู้สึกถึงความร้อน จ้องดวงตาสีน้ำตาลอ่อนฉายภาพสะท้อนของตัวเองราวกับจะชำเราคนใต้ร่างให้เสร็จสมได้เพียงใช้การมองเท่านั้น



ฝ่ายบัณฑิตาซึ่งไม่ทันได้ตั้งรับถึงกับสะดุ้งเฮือก สองแขนยกเกี่ยวเกาะท้อยทอยหนา กัดริมฝีปากส่ายหน้าส่งสัญญาณเว้าวอนไม่ให้พี่เขาทำอะไรก็ตามที่อยู่ในหัว แต่แล้วคุณชเนศก็พิสูจน์ให้โบเห็นว่าคำทัดทานไม่อาจเปลี่ยนแปลงสิ่งใดที่อีกฝ่ายต้องการ เมื่อฝ่ามือร้อนร้ายกาจเริ่มขยับขึ้นลงอย่างเชื่องช้า ปลายนิ้วหยาบกำลังลูบไล้วนบนส่วนหัว ความเสียวซ่านแล่นวิ่งไปทั่วสรรพางค์กายจนส่งผลให้ลมหายใจขาดห้วง เสียงครางหวานครวญเครือในลำคอโดยไม่อาจควบคุมได้ ก้อนกล้ามเนื้อใต้อกเต้นรุนแรงไม่เป็นส่ำ สองเท้าถีบยันเพื่อพาสะโพกผายหนีจากการรุกรานอันแสนอุกอาจ ซึ่งมันคงจะสำเร็จเสร็จสิ้นไปด้วยดีหากร่างสูงไม่เสริมทัพทำร้ายกันทางอ้อมโดยการขบติ่งหูกลั่นแกล้งกันเช่นนี้



เมื่อถูกโจมตีจากทั้งสองทาง น้องเล็กก็ทรมานจนแทบขาดใจ อายุขนาดนี้แถมยังเป็นเด็กผู้ชาย เรื่องสัมผัสตัวเองนั้นไม่ใช่อะไรแปลกใหม่ จึงคิดว่าคงไม่เป็นอะไรหากวันนี้คนรับหน้าที่นั้นจะเป็นคุณชเนศ ทั้งยังเคยถูกเดียร์บังคับให้ดูหนังผู้ใหญ่บ่อยครั้งจนชินชา เลยคิดว่าสนามแข่งจริงมันก็ง่ายดายเหมือนการถ่ายทำ แถมยังลำพองใจคิดว่าตัวเองเจนจัดในเรื่องเหล่านี้ดี เลยกล้าเอ่ยปากร้องขอให้อีกฝ่ายสานต่อกิจกรรมด้วยกันเสียที่นี่ หากแต่ยามเผชิญหน้ากับสถานการณ์จริงแล้วความเชื่อมั่นเหล่านั้นกลับถูกทำลายไปจนหมดสิ้น และทุกสิ่งที่เกิดขึ้นตอกย้ำให้โบเข้าใจว่าตัวเองช่างไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโลกของผู้ใหญ่เอาเสียเลย



ทุกตารางนิ้วบนเรือนร่างร้อนระอุราวกับถูกเผาไหม้ บทเรียนที่ชายหนุ่มมากประสบการณ์มอบให้ทำเอาสติเด็กน้อยวัยยี่สิบสองปีแตกกระเจิงเป็นเสี่ยง บัณฑิตาเบ้หน้าเมื่อรู้สึกได้ถึงจังหวะการขยับเขยื้อนของมือใหญ่ที่เริ่มเร็วขึ้น ได้ยินเสียงกลั้วหัวเราะข้างใบหูพร้อมๆ กับลมหายใจอุ่นซึ่งคลอเคลียไม่ห่างก็ยิ่งกระสันซ่าน โบสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองไปเรื่อยๆ ทุกวินาทีที่ถูกพี่เขาปรนเปรอ สมองและความคิดถูกครอบงำด้วยสัญชาตญาณดิบที่แฝงเร้นอยู่ในมนุษย์ทุกคน เรียวขาขาวเริ่มแหกอ้าออกกว้างเปิดทางให้ร่างสูงทำตามต้องการได้อย่างง่ายดาย พร้อมกันกับปลายคางที่เชิดเงยแหงนอำนวยความสะดวกให้ริมฝีปากหนาประทับตราลงไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า



ชอบไหม ? ”



เขากดเสียงถาม ฝ่ามือยังคงชักรูดแกนกายขนาดกะทัดรัดที่น่ารักพอดีกับเจ้าตัวน้อยไม่ขาด ส่วนริมฝีปากก็พัวพันอยู่กับอวัยวะเดียวกันซึ่งเริ่มบวมเจ่อ



อื้อ...ชอบ ชอบ ”



แม้จะต้องอ้าปากครางให้อีกฝ่ายฟัง แต่โบก็ยังตอบคำถามดังกล่าวนั้นด้วยความสัตย์จริง เขาชอบกอด เขาชอบจูบ ชอบฝ่ามือร้ายๆ ของคุณชเนศจนไม่อาจปฏิเสธได้ว่ามันดีกว่าการช่วยตัวเองให้ถึงฝั่งฝันเป็นไหนๆ



ดีหรือเปล่า ? ”



ชเนศรู้อยู่แล้วว่ามันดี ไม่อย่างนั้นน้องจะยอมนอนให้ทำแบบนี้หรือไร แต่เขาแค่ถามเพราะอยากได้ยินคำตอบจากปากน้อยๆ นี่ในยามที่ไม่มีสติครองกาย อยากรู้เหลือเกินว่าเด็กดื้อที่คอยแต่จะปิดกั้นความรู้สึกตัวเองไม่ให้ใครรับรู้จะเปิดกว้างเป็นอิสระได้แค่ไหนยามถูกความต้องการเล่นงานจนไม่มีทางสู้



ดี.. อ๊ะ... ดี ”



ไม่รู้ว่าเป็นอุบัติเหตุหรือตั้งใจ แต่ปลายเล็บสั้นกุดที่สะกิดโดนส่วนปลายของแกนกายน่าอายก็ทำให้ความเสียวซ่านแตกกระจายในช่องท้อง น้องน้อยเอื้อมแขนเกี่ยวท้ายทอยให้ใบหน้าหล่อเหลาโน้มเข้ามามอบจุมพิตให้ราวกับจะหาที่ระบาย ทั้งสองแลกจูบกันอย่างหิวกระหาย คล้ายไม่เคยทำกิจกรรมเช่นนี้มาก่อน



อย่าไปทำแบบนี้กับใครเชียวนะ พี่จะตีให้ตายเลย ”



เขาคำราม เอ่ยสั่งด้วยน้ำเสียงเอาจริงเอาจัง บีบขยำสะโพกผายจนมันขึ้นรอยด้วยความมันเขี้ยว



ไม่...โบไม่ทำ ฮื่อ ไม่ทำกับ..ใคร ”



เสียงหวานเริ่มส่อแววกระท่อนกระแท่นพร้อมกันกับปลายเท้าที่จิกเกร็งหลังจากถูกมือหนามอบสัมผัสหนักหน่วงให้ โบปิดเปลือกตา จิกกำมุมหมอนใบใหญ่จนมันยับยู่ยี่เมื่อรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่คืบคลานเข้ามาใกล้ เหงื่อเม็ดเป้งผุดพรายพร้อมกับลมหายใจซึ่งขาดกระตุกเป็นจังหวะ สะโพกกลมกลึงขยับขึ้นลงตามทิศทางที่พี่เขาชักนำเมื่อเจ้าตัวเริ่มเอื้อมสัมผัสแสงสีขาวสะอาดถึง ขณะเดียวกันนั้นสัมปชัญญะเองก็สูญสิ้นอย่างสมบูรณ์ ความเสียวซ่านแล่นพล่านไปทั้งร่างกายในตอนที่บัณฑิตาหวีดร้องจนก้องห้องสี่เหลี่ยม รู้สึกราวกับถูกเหวี่ยงขึ้นไปบนฟ้าและฉุดรั้งให้ตกลงมาสู่ฟูกนอนกว้างซ้ำแล้วซ้ำเล่า ร่างน้อยหัวหมุน หูอื้อ ดวงตาพร่าเบลอ ก่อนจะปลดปล่อยความน่าเอ็นดูออกมาเปรอะเปื้อนหน้าท้องแบนราบ ส่วนหนึ่งกระฉอกกระเด็นขึ้นมาถึงปลายคางเพราะแรงส่งมหาศาลของเจ้านาย



ดวงเนตรปรือปรอยฉ่ำวาวเพราะน้ำหล่อเลี้ยงที่ร่างกายผลิตออกมา น้องน้อยกอบโกยอากาศเข้าปอดอย่างเอาเป็นเอาตายหลังจากความเสียวซ่านระลอกแรกจบลง ใบหน้าน่ารักซับสีระเรื่อริ้นผ่าวเมื่อเจ้าของตำแหน่งแฟนหมาดๆ ยกมือข้างที่เปื้อนคราบน้ำสีขาวข้นขึ้นมาอยู่ในระดับที่สายตาของทั้งสองมองเห็นได้อย่างถนัดถนี่ แลบลิ้นเลียทำความสะอาดมันให้เห็นซึ่งหน้าไม่อายฟ้าดิน กดยิ้มพึงพอใจเมื่อรสชาติหวานกระจายตัวทั่วทุกพื้นที่ นึกเอ็นดูคนใต้ร่างที่แม้จะแทบไม่มีแรงเหลือไปทำอะไร แต่ก็ยังพยายามรวบรวมมันเพื่อใช้ดึงมือขึ้นมาบดบังทัศนวิสัย ปิดกั้นตัวเองจากภาพชวนใจสั่นเหล่านั้น ชเนศกลั้วหัวเราะในลำคอ ยืดตัวเปิดลิ้นชักเล็กๆ ตรงหัวเตียง คว้าเอาซองฟอยล์รูปสี่เหลี่ยมกับขวดเจลหล่อลื่นออกมาตั้งวางเตรียมเอาไว้ ก่อนหยัดกายกลับลงไปยืนปักหลักอยู่บนพื้นเย็นเฉียบ



เสียงหัวเข็มขัดกระทบกันดังขึ้นท่ามกลางความเงียบงัน เสียงผ้าเนื้อดีขยับเสียดสีกับร่างกายก่อนถูกปลดประจำการหล่นร่วงลงไปกองอยู่ที่พื้นอีกหนึ่งชิ้น ตามด้วยกางเกงชั้นในอันแสนไร้ค่า ส่วนกลางลำตัวขนาดใหญ่สมชายดีดผึงไม่ตกต้องตามแรงโน้มถ่วงชี้หน้าคนตัวเล็ก ( แน่นอนว่ายังซ่อนอยู่หลังมือน้อย ) อย่างอุกอาจ เขายิ้มเอ็นดู ทอดสายตามองเด็กน้อยที่ลำพองคิดว่ารู้เรื่องโลกของผู้ใหญ่ดีหนักหนา ก่อนจะพาตัวเองกลับขึ้นเตียงไปทาบทับเรือนร่างบอบบาง จงใจปล่อยให้เครื่องเพศวางแนบกับหน้าขาขาว ราวกับถูกเอาเตารีดนาบ โบสะดุ้งตัวสั่น ถูกพี่เขารวบพันธนาการปราการปกป้องสายตาขึ้นไปอยู่เหนือหัว หวาดกลัวอะไรก็ตามที่ขู่เข็ญกันทางอ้อมด้วยขนาดและอุณหภูมิจนต้องหลับตาปี๋



ยกแยกแหวกเรียวขาทั้งสองให้อ้ากว้างอีกครั้ง บัณฑิตาที่ยังไม่มีทั้งสติทั้งแรงดีเลยต้องยอมให้พี่เขาบิดจับจัดท่าทางราวกับเป็นตุ๊กตาก็ไม่ปาน มือใหญ่ปาดป้ายคราบความน่าอับอายที่ยังเปรอะคาอยู่บนหน้าท้องให้ติดปลายนิ้วมาจำนวนหนึ่ง ก่อนจะส่งมันไปแตะสัมผัสรอยจีบซึ่งหดตัวหนีทันทีตามประสาคนอ่อนประสบการณ์ เปลือกตาสีอ่อนเบิกกว้างเพราะความตกใจเมื่อถูกรุกราน พบใบหน้าหล่อเหลาคลอเคลียอยู่ใกล้พร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ดวงตาเจ้ากรรมที่ดูจะลามกกว่าเวลาปกติกลอกเลื่อนไล่ลงต่ำ ผ่านกระดูกไหปลาร้านูนเด่น แผ่นอกแข็งแรง ลอนกล้ามหน้าท้อง และส่วนตรงกลางตัวที่ชี้หน้าตั้งต้านแรงโน้มถ่วงอวดอ้างความใหญ่โต โบกลืนน้ำลาย เข้าใจในทันทีว่าเหตุใดจึงถูกเตือนไม่ให้หาเรื่อง



เพราะเรื่องที่ว่า...มันไม่ใช่เล็กๆ เลยน่ะสิ



ชายหนุ่มเห็นความตื่นตระหนกในแววตาสีน้ำตาล เห็นความหวาดกลัวบนใบหน้าน่ารัก ซึ่งนั่นปลุกอารมณ์กำหนัดในตัวชายได้อย่างดีเยี่ยม เขาไม่อยากกลายเป็นคนโรคจิตอยากข่มขืนเด็กตอนอายุจะสามสิบ แต่สภาพน้องตอนนี้ไม่ได้ปรานีปราศรัยกันเลยสักนิดเดียว ชายหนุ่มกดข่มความรู้สึกเอาไว้ไม่ให้ทำอะไรจนถึงขั้นน้องต้องเลือดตกยางออก พยายามหายใจเข้าออก ไม่รีบร้อน ขณะที่ปลายนิ้วนวดคลึงรอบช่องทางสีหวานซึ่งยุบตัวเป็นจังหวะไม่หยุดหย่อน



พี่จะไม่หลอกว่ามันไม่เจ็บ... ”



รักษาสัมผัสให้ยังคงหนักแน่นแต่ก็ทะนุถนอมน้องไม่เสื่อมคลาย เขาไม่อยากปั้นน้ำเป็นตัวหลอกบัณฑิตาว่าสิ่งที่เราจะทำต่อไปนี้นั้นไม่ได้มีความเจ็บปวดมาเกี่ยวข้อง 



แต่ถ้าโบผ่อนคลาย มันจะง่ายขึ้น ”



ชเนศรู้ว่าน้องไม่ได้พยายามขัดขืน เพียงแต่ไม่รู้ว่าจะจัดการกับร่างกายของตัวเองอย่างไรยามมีปลายนิ้วมากดวนอยู่บนรอยจีบที่ปิดแน่น โพรงเนื้อนุ่มซึ่งไม่เคยมีประสบการณ์ผ่านมือชายยังสดใหม่ ไม่เคยมีสิ่งใดบุกรุก ดังนั้นประการแรกที่ควรทำคือการตระเตรียมมันเสียก่อน ไม่ใช่นึกจะทำก็ตะบี้ตะบันทำไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม ขืนโบกลัวแล้วไม่ยอมให้แตะตัวอีก เขานี่ล่ะจะเป็นฝ่ายที่ย่ำแย่เสียเอง



ค่อยๆ หายใจ ให้พี่เข้าไปนะ มันจะดี พี่สัญญา ดีกว่าที่เราทำกันเมื่อกี้นี้อีก ”



ถ้ายังเป็นแบบนี้ ไม่ใช่แค่โบที่ลำบาก เขาเห็นร่างเล็กทรมานกับความรู้สึกกระสันซ่านทั่วสรรพางค์กาย กัดปาก ขยำฟูก กลั้นเสียงร้องกันวุ่นวาย ทั้งหน้าทั้งตัวก็แดงไปหมด ส่วนกลางลำตัวที่สงบนิ่งก็พองขยายขึ้นมาอีกครั้ง เหงื่อเม็ดเป้งผุดพรายทั้งๆ ที่อุณหภูมิภายในห้องเย็นยะเยือก ชายหนุ่มตั้งสติแม้จะถูกภาพน่ากระทำชำเราของโบเล่นงาน เพื่อกำหนดจังหวะลมหายใจให้น้องดูเป็นตัวอย่างและทำตาม



เขาจูบปลอบประโลมคนน่ารักที่กำลังตื่นกลัว ทั้งๆ ที่ตัวเองก็กังวลกับเรื่องนี้ไม่ต่างกัน ซึ่งเป็นโชคดีที่ความอบอุ่นอ่อนละมุนนั้นช่วยทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นมาก ชเนศเริ่มรู้สึกถึงรอยจีบที่ค่อยๆ คลายตัวออกและขยับบีบรัดแน่นเป็นจังหวะสม่ำเสมอพร้อมกับลมหายใจที่ไม่ได้ถี่กระชั้นเหมือนคนสติแตกในคราแรก เขาจึงเริ่มกดชำแรกแทรกปลายนิ้วเข้าไปช้าๆ ผนังเนื้ออ่อนนุ่มบีบรัดอวัยวะแปลกปลอมทันทีที่มันรุกล้ำเข้าไป



ฮื่อ ! จ...เจ็บ ! ” 



บัณฑิตาหวีดร้องเสียงเครือ ผวายกเรือนร่างขึ้นมาเกาะกอดช่วงไหล่กว้างราวกับหาที่พึ่งพิง หัวใจชายหนุ่มตกหล่นลงไปกองอยู่ที่ตาตุ่มเมื่อสอดรัดแขนโอบพยุงน้องน้อยเอาไว้และรู้สึกถึงแรงสั่นไหวน้อยๆ ใบหน้าน่ารักซุกซบอยู่ตรงซอกคอ ไม่เอ่ยห้ามหรือผลักไสแม้จะหวาดกลัวกิจกรรมดังกล่าวนี้จนแทบสิ้นสติ ด้วยลึกๆ แล้วรู้ดีว่าพี่เขาก็อดรนทนมามาก ยอมอยู่กับร่องกับรอยไม่เกินเลยทั้งเดือนโดยไม่ปริปากบ่นให้ได้ยินสักคำ



เด็กดีของพี่ ไม่เกร็งนะครับ ไม่เป็นไรนะ ”



ชเนศกัดฟันกรอดอย่างสุดจะทนเมื่อจินตนาการโลดแล่นไม่เป็นเวล่ำเวลา เขาคิดภาพตัวเองแทรกกายอยู่ในในช่องทางนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า กระแทกเข้ากระแทกออกจนน้องหวีดร้องไม่เป็นภาษา สองขาขาวสั่นระริกเนื่องจากถูกความกระสันซ่านเหลือคนานับโจมตี สมองโล่งว่างและมีแต่เขาเท่านั้น ชายหนุ่มกระแทกลมหายใจ กัดฟันกรอด ขับไล่ปีศาจร้ายให้ล่าถอยไปเพราะอาการหนึ่งคนตรงนี้ยังน่าเป็นห่วง มือใหญ่ลูบแผ่นหลังบอบบางปลอบประโลมทางการกระทำพร้อมกับคำพูด ทั้งหอม ทั้งจูบ ใช้น้ำเย็นเข้าตะล่อมจนร่างน้อยในอ้อมกอดสั่นไหวน้อยลง



จ...เจ็บ...ฮื่อ ”



หยุดไหม ? หือ ? ”



เห็นน้องร้องฟ้องแบบนี้ชเนศก็ไม่มีกะใจทำอะไร นอกจากเสนอให้หยุด เซ็กส์ที่เกิดขึ้นจากความต้องการเพียงฝ่ายเดียวไม่ต่างอะไรกับการข่มขืนฝืนใจกัน โบคงยังไม่พร้อม และถึงแม้เขาจะอยากแค่ไหน ก็คงลงมือในสถานการณ์เช่นนี้ไม่ลง



ไม่...อะ.. ไม่เอา อื้อ ”



ครั้นพอได้ยินก็ปฏิเสธเสียงสั่น รัดกอดร่างใหญ่แน่นขึ้นอย่างหวงแหนราวกับกลัวว่าอีกฝ่ายจะจางหายไปไหน บัณฑิตากัดฟันกลั้นความเจ็บแปลบปลาบที่โจมตีไม่หยุดไม่หย่อน จิกปลายเล็บกับแนวกล้ามเนื้อตรงหัวไหล่ ฝืนทนกดสะโพกลงไปหาก้านนิ้วที่แทรกซ่อนอยู่ในโพรงเนื้ออบอุ่น แต่แรงเสียดทานก็มากมายจนแทบกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่



น้องโบ...อย่าทำแบบนี้ ”



พี่ใหญ่แสนอ่อนใจ ไม่กล้าขยับเขยื้อนทั้งเข้าและออกเพราะรู้ว่าบทจะดื้อ จะเอาแต่ใจ ใครก็หยุดน้องไม่ได้แม้แต่บุพการีหรือผู้ปกครอง เขากัดฟันกรอด กดจมูกสูดดมกลิ่นหอมที่ซอกคอขาวสะอาดอย่างอดทนอดกลั้น บัณฑิตาจะรู้ไหมว่าสิ่งที่ตัวเองทำ มันไม่ต่างอะไรกับการโยนไม้ขีดไฟลงทะเลน้ำมันเลยสักนิดเดียว



ไม่เอา อ๊า...ไม่...หะ..ให้ไป ”



นิยามยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุเหมาะสมกับสถานการณ์นี้มากที่สุด น้องน้อยส่ายหน้า ยิ่งเห็นพี่เขานิ่งเฉยไม่หืออือ ยิ่งกลัวว่าความอ่อนเดียงสาของตัวเองจะทำให้คนอายุมากกว่าเบื่อหน่ายและรำคาญตั้งแต่วันแรกที่ตกลงปลงใจเป็นแฟนกัน เสียงหวานกระท่อนกระแท่นขณะที่อวัยวะแปลกปลอมแทรกเข้ามาเรื่อยๆ เนื่องด้วยแรงกดของสะโพกบาง



โบ ”



อื้อ...พี่ทำ...อึก...ทำโบ ”



ทำไมถึงดื้อนักนะ ”



ได้ยินเสียงก็รู้ว่าเจ็บเจียนตาย แค่สารคัดหลั่งกับน้ำรักที่ขาวเหล่านี้ไม่ได้ช่วยให้ช่องทางสีหวานพร้อมรับกิจกรรมเช่นนี้ได้ง่ายดายอย่างใจนึก แต่เจ้าตัวน้อยก็ฝืนดันทุรังรับมันเข้าไปจนสุดโคนนิ้ว แถมยังบีบรัดเขาเสียแน่น เกร็งจนโพรงเนื้อเต้นตอดกระตุกไม่เป็นจังหวะ ชเนศต้องยอมรับว่าเราทั้งคู่มาไกลเกินถอยกลับ เขาไม่ได้เป็นสุภาพบุรุษขนาดยอมละเว้นแฟนตัวเล็กที่เอาแต่พูดจาออดอ้อนขอให้ชำเราไม่หยุดหย่อน ส่วนโบเองที่แม้นมีโอกาสผลักไสหลายต่อหลายหน แต่กลับไม่ไขว่คว้ามันไว้ เลือกชักนำอันตรายเข้าสู่ตัวเองแท้ๆ 



เขาเอื้อมมือไปคว้าขวดเจลหล่อลื่นที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงมาพักใหญ่ ดันนิ้วโป้งดีดฝามันให้กระเด็นออกไปอย่างไม่ใส่ใจนัก ก่อนบีบชโลมของเหลวหนืดๆ ใส่รอยพับจีบซึ่งยังหดรัดกันอย่างเอาเป็นเอาตาย จริงๆ แล้วชเนศไม่ได้ตั้งใจบุกรุกเข้ามาสำรวจในร่างกายน้องตั้งแต่แรก หากทว่าเพราะอารมณ์มันพาไปสุดท้ายจึงเกินเลยมาถึงขั้นนี้ เขาเริ่มขยับนิ้วชี้เข้าออกเชื่องช้า เนิบนาบ และทุกครั้งมันจะนำพาเมือกสังเคราะห์จากธรรมชาติเกาะติดเข้าไปด้วย มันจึงช่วยลดแรงเสียดทานได้ค่อนข้างมาก ชายหนุ่มไม่ต้องนั่งฟังเสียงหวีดร้องปานจะขาดใจของคนตัวเล็ก ไม่ต้องทนฟังเวลาน้องบอกว่าเจ็บอยู่บ่อยๆ 



กลับกัน เสียงครางหวานเริ่มสั่นไหวเมื่อปลายเล็บสะกิดโดนจุดไวสัมผัสซ้ำแล้วซ้ำเล่า แรงบีบรัดซึ่งเกิดจากการหดเกร็งก็จางหายไปเพราะโบเข้าใจว่าผ่อนคลายนั้นทำได้โดยการปล่อยตัวปล่อยใจตามความต้องการ ชายหนุ่มจึงเริ่มส่งนิ้วที่สองเข้าไปเบิกทางให้ขยายกว้างขึ้น กดกระแทกหมุนคลึงรอบผนังเนื้ออ่อนร้อนระอุซึ่งตอดรัดเขาได้ดีเสียจนอยากใส่อวัยวะที่มีขนาดใหญ่กว่า ยาวกว่า และร้อนกว่านี้เข้าไปทดลองงาน เสียงเปียกแฉะน่าอายดังขึ้นคล้ายเป็นเพลงรักขับกล่อม เป็นคำยืนยันว่าน้องกำลังมีความสุขกับประสบการณ์แปลกใหม่ ไหนจะเปลือกตาที่ปิดพริ้ม ริมฝีปากบางที่อ้ากว้างค้างไว้นานจนกลัวว่ากระดูกกรามจะมีปัญหา สองมือน้อยซึ่งจิกทึ้งดึงผ้าปูที่นอนอย่างบ้าคลั่ง เส้นผมเปียกเหงื่อสีดำกระจายตัวทั่วหมอนสีขาว



แต่นั่นยังทรมานใจเขาได้ไม่เท่าตอนที่เด็กน้อยไร้สติสัมปชัญญะส่งนิ้วเล็กๆ เข้าปาก...



ดูดกลืน กัดแทะ และเลียเล็มมันราวกับพวกนางเอกหนังผู้ใหญ่



แล้วจ้องมองมาด้วยดวงตาฉ่ำน้ำที่อันแน่นด้วยความปรารถนา



อื้อ...พี่จ๋า...บ...โบเสียว




นาทีนั้นชเนศบอกตัวเองว่าเขาไม่อาจอดทนกับบัณฑิตาในสภาพเช่นนี้ได้อีกต่อไป



เขาคำรามเสียงต่ำ สิ้นคำ ชเนศรีบร้อนถอดถอนก้านนิ้วออกมาจากโพรงเนื้อระอุ กดบังคับให้เรียวขาทั้งสองข้างแหวกออกกว้างมากกว่าที่เคย เพิกเฉยซองถุงยางอนามัยที่หล่นลงไปกองอยู่บนพื้นราวกับไม่รู้จักอุปกรณ์ป้องกันชนิดนี้ ส่งมือไปชักรูดลูกชายตัวเขื่องเพื่อปลุกกระตุ้นให้มันพร้อมรบเพียงทีสองที ก็กดแทรกมันเข้าไปในช่องทางสีหวานคราเดียวจนมิดด้ามปืน คนถูกจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัวสะดุ้งเฮือก กรีดร้องเสียงหลง ขาสั่นจนแทบตั้งตามท่าทางที่พี่เขาจับจัดไว้ให้แทบไม่ไหว ความเจ็บปวดกลับมาทำร้ายกันจนน้ำตาไหลพราก ครู่หนึ่งความกระสันซ่านก็พุ่งเข้ามาปะทะจนหัวหมุน มันร้ายกาจ ดุดัน แสบร้อน ร้าวรานคล้ายร่างกายจะถูกทึ้งแหวกเป็นสองส่วน



ขณะที่ชเนศกำลังถูกความรู้สึกดีสุดบรรยายปลุกเรียกปีศาจร้ายในตัวให้กลับมาทำหน้าที่ เขาบีบต้นขาเนียนเสียจนขึ้นรอยมือสีแดง ใบหน้าหล่อเหลาเชิดเงยมองเพดาน กัดฟันกรอดจนเห็นแนวกรามได้ชัดเจนยิ่งกว่าคราใด หวังจะกระแทกกายโรมรันโหมแรงทั้งหมดใส่ แต่เมื่อก้มลงมามองเห็นใบหน้าน่ารักเปรอะเปื้อนไปด้วยรอยน้ำตา หัวใจชายหนุ่มก็ชาดิก ความรู้ผิดที่เผลอตัวลงมือทำอะไรไปโดยไม่คิดหน้าคิดหลังกำลังฆ่าเขาให้ตายทั้งเป็น เมื่อเดือนที่แล้วเพิ่งตกปากรับคำกับพ่อแม่อีกฝ่ายว่าจะไม่ทำให้น้องร้องไห้เสียน้ำตานั้นกลับกลายเป็นคำพูดที่ไม่น่าศรัทธาอีกต่อไป บทเรียนรักในโลกของผู้ใหญ่ก็คงไม่น่าประทับใจอย่างที่ต้องการ ชายหนุ่มนึกเกลียดสัญชาตญาณดิบของตัวเองจับใจ นึกเกลียดที่ไม่อาจควบคุมสิ่งใดให้อยู่ในร่องในรอยได้แม้กระทั่งแรงปรารถนาของตัวเอง



พี่ขอโทษ... ”



เขาเอ่ยออกมาอย่างหมดแรง พยายามเคลื่อนตัวขยับย้ายอย่างเชื่องช้าโดยระวังไม่ให้กระเทือนช่วงล่างของเราทั้งคู่ที่เชื่อมประสานกัน ชายหนุ่มจูบซับหยาดน้ำตาเหล่านั้นเอาไว้โดยมีไม่ท่าทีรังเกียจ กอบกุมพวงแก้มขาวอย่างทะนุถนอมราวกับคนใต้ร่างจะแหลกสลาย



เจ็บมากไหม ? ”



คำตอบของคำถามนั้นคือการส่ายหน้า ฝืนวาดยิ้มส่งให้ บัณฑิตาเลือกจะปฏิเสธแม้ตนเองจะเจ็บเจียนตาย และนั่นส่งผลให้ชเนศยิ่งรู้สึกผิดกับการกระทำของตัวเองเข้าไปกันใหญ่ กี่ครั้งแล้วที่น้องต้องเสียสละตัวเองเพื่อเขา กี่ครั้งแล้วที่น้องต้องแบกรับทุกความรู้สึกอันแสนหนักหนาสาหัสเอาไว้ กี่ครั้งแล้วที่ต้องมาทนรองรับความเอาแต่ใจ แบ่งรับแบ่งสู้ด้วยพละกำลังน้อยๆ โดยไม่ปริปากบ่นหรือบอกสักคำว่าตนเองรู้สึกเช่นไรกับสิ่งเหล่านี้



ทนหน่อยนะ รอให้มันเย็นกว่านี้หน่อย เราจะได้ไม่เจ็บเวลาพี่เอาออก ”



ในสถาการณ์อย่างนี้เขาไม่อาจเดินหน้าและถอยหลังปุบปับ ชายหนุ่มต้องการเวลาสักพักเพื่อปล่อยให้ความกำหนัดในร่างกายเบาบางลงบ้าง อย่างน้อยก็ให้น้องได้ปรับตัวและไม่เกร็งมากมายขนาดนี้



ฮื่อ ไม่เอา...โบไม่เอา ”



พี่ก็ไม่ได้จะเอา ”



ไม่...โบไม่ให้ออก...อ๊ะ...ไม่ให้ ”



 “ อย่าดื้อไม่เข้าเรื่องได้ไหมโบ อยู่นิ่งๆ ! ”



ชเนศอยากรู้ว่าทำไมเขาจึงต้องมาทนกับอะไรแบบนี้ ทำไมต้องมาเจอบัณฑิตาในสภาพที่น่ากระทำชำเราตลอดทุกวินาทีที่อยู่ด้วยกัน ร่างเล็กกระเสือกกระสนขยับสะโพกสวนเพื่อบันดาลให้คำกล่าวนั้นเป็นจริง พร้อมกันกับชายหนุ่มซึ่งทวีคูณความหัวเสียยิ่งขึ้นไปอีก มือใหญ่กดตรึงเด็กดื้อจอมพยศให้หมดหนทางสู้ เมื่อน้องยกตัวลอยจากฟูกไม่ได้ อีกฝ่ายก็ไม่สามารถทำตามใจสั่งได้อีก เขากัดฟันกรอดเป็นครั้งที่สิบในรอบวัน สุรเสียงทุ้มต่ำนั้นดังจนคล้ายตวาดเพราะไม่อาจควบคุมคนในปกครองได้อยู่หมัดเหมือนเวลางาน



ไม่ ! อย่ามา...อะ..อย่ามาสั่ง ”



คงเป็นผีห่าบ้าบอที่ไหนไม่รู้เข้าสิงเลยสั่งให้โบทำสิ่งน่าอายได้เหมือนหน้าไม่มียาง ยิ่งได้ยินว่าพี่เขาจะออกไปจากร่าง โบก็ยิ่งดิ้นรนให้เจ้าของเรือนกายกำยำยึดอยู่กับตัว ในเมื่อไม่ยอมให้ขยับสวนขึ้นไป น้องน้อยจึงเลือกรวบรวมพละกำลังสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ยกเรียวขาขึ้นรัดเกี่ยวรอบสะโพกสอบอย่างแน่นหนา เหมือนในวีดีโอผู้ใหญ่ที่เดียร์บ่นบังคับให้ศึกษาตระเตรียมไว้ตั้งแต่ยังอยู่มัธยมปลาย เพื่อเหนี่ยวรั้งให้ชายหนุ่มเป็นฝ่ายขยับกายลงมาแทนเสียเอง มันยังเจ็บ เจ็บเหมือนตายไม่ต่างจากคราแรก แต่นาทีนี้บัณฑิตาไม่เหลืออะไรจะเสียอีกต่อไปแล้ว



โบ ! พี่จะไม่ใจดีกับเราแล้วนะ ! ”



เขาเริ่มหัวเสียกับความดื้อรั้นไม่รู้จบเพราะห่วงน้องจนแทบเสียสติ ทำไมเด็กคนนี้ถึงรังทำแต่อะไรที่ไม่เกิดผลดีแก่ตัวเองเลยสักอย่าง ทั้งยั่วให้เขาทำ ขอร้องให้เขาอยู่ พูดจาเหมือนคนไม่รู้สติตลอดเวลา คงเจ็บจนแทบบ้าทว่าก็ยังไม่หยุดเดินหน้าดันทุรังทำ นี่จะเข้าใจบ้างไหมว่าชเนศห่วง จะเข้าใจบ้างหรือไม่ว่าที่สั่งให้หยุดทำเพราะมันจะส่งผลดีกับตัวอีกฝ่าย



ทำกับโบ...อื้อ...ทำกับโบ ”



“ ... ”



ม...ไม่ให้ทำกับคนอื่นนะ ไม่ให้ ”



ชเนศคิดว่าเขาเริ่มเข้าใจ คิดว่าตัวเองเริ่มรู้อะไรบางอย่าง...



มันฉายชัดให้เห็นในแววตาคู่นั้น แสดงออกให้รับรู้ทางการกระทำ เพียงแต่เขามัววุ่นวายกับเรื่องงานจนไม่ทันได้เอะใจ



ไปได้ยินอะไรมาใช่ไหมถึงได้ดื้อกับพี่ขนาดนี้ ”



เขาได้รับคำตอบจากคำถามนั้นเป็นการส่ายหน้าอีกครั้ง น้องกัดปาก ดวงตาสั่นไหว พยายามปั้นน้ำเป็นตัวให้น่าเชื่อถือ แต่แน่นอนว่ามันไม่ได้มีผลอะไรกับชเนศเลยแม้แต่น้อย เพราะถึงแม้น้องจะไม่พูดบอก ทว่าเขาก็พอรู้อยู่ว่าบุคคลผู้ซึ่งถนัดเรื่องยุแยงตะแคงรั่วให้แตกคอเข้าใจผิดกันในชีวิตตนเองนั้นมีอยู่เพียงรายเดียว



ยังจะโกหกอีกนะ มันน่านัก ”



ชเนศรู้สึกได้ว่าช่องทางด้านหลังเริ่มขยับตัวคลาย เขาจึงแกล้งสวนสะโพกใส่อีกฝ่ายไปหนึ่งที



โบไม่ได้...ไม่ได้โกห— อื้อ ! ”



บอกก็แล้ว สอนก็แล้ว สั่งก็แล้วไม่รู้จักจำ ชเนศไม่ชอบคนโกหก และเขาจะยิ่งไม่พอใจหากแฟนตัวเองมาแสดงอาการดื้อตาใสปิดปากเงียบอย่างนี้ ประจวบเหมาะกับช่วงที่แกนกายรู้สึกได้ถึงแรงบีบรัดซึ่งคลายลง เลยลงโทษคนดื้อด้วยการจูบปิดริมฝีปากและแกล้งกระแทกสวนกายเข้าไปเช่นดั่งที่อีกฝ่ายปรารถนา



พรรณนาราใช่ไหม ? ”



“ … ”



แสดงว่าใช่ ”


เขาผ่อนลมหายใจ เกลี่ยไรผมเปียกชื้นที่หล่นลงมาเคลียแก้มให้พลางมองตาน้องพร้อมกับความรู้สึกหนักอึ้งในใจ



ไม่ว่าใครจะพูดอะไรต่อไปนี้ โบฟังแค่พี่นะ ”



ชายหนุ่มไม่อยากให้น้องเก็บเรื่องไร้สาระมาคิด ไม่อยากให้คำพูดไร้ค่าของผู้หญิงคนนั้นมาทำลายความสดใสที่ตัวเองกับครอบครัวบริรักษ์สุคนธ์เฝ้ารักษา ชีวิตชเนศยังมีอุปสรรคอีกมากซึ่งต้องการให้เจ้าของมือน้อยๆ นี้ร่วมช่วยกันฟันฝ่า และมันคงจะดีกว่าถ้าโบเชื่อฟังคำพูดของเขา



ความจริงบางอย่าง ถึงจะรู้มันก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร แต่พี่ขอให้โบเข้าใจว่าทุกๆ สิ่งที่พี่ทำลงไป พี่ทำเพื่อปกป้องโบ ”



“ … ”



ดังนั้นโบเชื่อพี่นะ เชื่อผู้ชายคนนี้ เชื่อผู้ชายที่จะไม่มีวันโกหกโบ ได้ไหมครับ ?



“ … ”



อื้อ ”



บัณฑิตาตอบรับคำสั่งประกาศิตนั้นโดยดุษฎี เชื่อพี่เขาอย่างเต็มหัวใจ เพราะทุกการกระทำที่แสดงออกให้เห็นมาตั้งแต่วินาทีแรกที่พบกันยืนยันให้รู้ว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดมานั้นเป็นความจริง



พูดกันง่ายๆ แบบนี้ได้ทุกทีก็ดีสิ ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเราจะต้องดื้อใส่พี่ตลอดเวลา มันน่ากัดให้จมเขี้ยวนัก ”



สิ้นเสียง ชเนศก็โน้มกายของไปงับปลายจมูกกลม ขบเบาๆ บนใบหูขาว และกัดเนื้อนุ่มนิ่มช่วงไหล่จนขึ้นรอยฟันจางๆ ทำเอาคนใต้ร่างต้องเบี่ยงตัวหลบเป็นพัลวัน ซึ่งแน่นอนว่าในสถานการณ์เช่นนี้การกระทำดังกล่าวส่งผลโดยตรงถึงอวัยวะที่เชื่อมต่อกันด้านล่าง ความเสียวปลาบเล่นงานคนทั้งคู่จนไม่อาจทัดทานเพลิงปรารถนาซึ่งลุกโชนในใจ



ต่อจากนี้...หยุดไม่ได้แล้วนะโบ ”



“ ... ”



พี่จะถามเป็นครั้งสุดท้าย ”



“ … ”



โบยังอยากให้พี่ทำแบบนี้อยู่ไหม ? ”




โบอยาก ฮื่อ...อยากให้พี่ทำโบ



โบอาจจะโง่เหลือเกินที่คิดใช้เซ็กส์ผูกมัดและเหนี่ยวรั้งความสัมพันธ์ของเราเอาไว้ให้ยั่งยืนและมั่นคง แต่ลำพังเด็กอายุยี่สิบสองซึ่งแม้นจะมีความคิดความอ่านหลายต่อหลายเรื่องเป็นเหมือนผู้ใหญ่ ก็ยังอ่อนประสบการณ์เกินกว่าจะค้นหาหนทางแก้ปัญหารักๆ ใคร่ๆ ได้ด้วยวิธีอันชาญฉลาดเสมอไปได้ในทุกครั้ง



อย่ามาโทษกันทีหลังก็แล้วกัน ”



เมื่อความตึงเครียดผ่อนคลาย ลมหายใจระบายเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ ผนังอ่อนนุ่มที่ห่อหุ้มโอบรัดแกนกายขนาดใหญ่จึงกระตุกตอดเป็นจังหวะ สารคัดหลั่งถูกขับออกมาผสมปนเปกับของเหลวสำหรับหล่อลื่นตามกลไกตามธรรมชาติของร่างกาย บัณฑิตาใจสั่นเหมือนคนอยากยาเมื่อความร้ายกาจร้อนระอุถูกถอดถอนออกไปจนเกือบสุดลำ ช่องทางด้านหลังวูบโหวงเหมือนกับช่องท้องยามขึ้นโรลเลอร์โคสเตอร์ในสวนสนุก ความหวาดกลัวที่ตีรวนขึ้นมาเนื่องจากประสบการณ์คราแรกถูกปลอมประโลมด้วยจุมพิตอันแสนอบอุ่นและอ่อนโยน ก่อนที่เจ้าของเรือนกายกำยำจะกดแทรกมันกลับเข้ามาเติมเต็มอย่างเชื่องช้า ไม่รีบร้อนเสือกไสมันเข้ามาเพราะใช่ว่าสรีระของน้องน้อยจะพร้อมรับตัวตนของชเนศโดยไม่มีข้อแม้



ใบหน้าหล่อเหลาบิดเบี้ยวเนื่องจากถูกความคับแน่นพุ่งตรงเข้าเล่นงาน สองมือใหญ่สอดประสานกดอวัยวะเดียวกันของอีกฝ่ายจนแทบจมหายไปกับฟูกเตียง ดวงตาสีน้ำตาลเข้มในแสงสลัวดูลึกล้ำราวกับมหาสมุทรแห่งความปรารถนาซึ่งไม่มีที่สิ้นสุดสะท้อนภาพเรือนร่างบอบบางซึ่งนอนหอบหายใจรับสัมผัสแปลกใหม่ เรียวขาขาวอ้ากว้างเปิดทางให้สะโพกสอบแทรกเข้าออกเช่นคนไร้สติ แม้มันจะเชื่องช้า หากแต่ก็หนักแน่นเสียจนสั่นสะท้านไปทั้งร่าง ส่วนหัวของแกนกายกระทบกระทั่งบดขยี้จุดกระสันทุกคราครั้งจนเสียงครางสั่นเครือดังให้ได้ยินไม่ขาด หยาดเหงื่อเริ่มไหลรินเคลือบผิวเนื้อและขับกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ประจำกายออกมาผสมกับน้ำหอมที่ยังหลงเหลืออยู่ มันมอมเมาคนทั้งคู่ราวกับเป็นสารเสพติดที่ออกฤทธิ์โดยตรงกับระบบประสาท



เมื่อจังหวะเชื่องช้าค่อยเป็นค่อยไปไม่อาจเติมเต็มความต้องการ ชายหนุ่มจึงเริ่มเพิ่มจังหวะขยับโยกร่างกายให้ไวยิ่งขึ้น พร้อมกับลิ้นร้อนที่ละเลงน้ำลายปรนเปรอยอดอกสีหวานที่เข็งเป็นไต โบกัดริมฝีปาก ผิวแก้มขึ้นสีแดงจัดเมื่อได้ยินเสียงเนื้อตีกันดังก้องห้องสี่เหลี่ยมคลอกับเสียงครางปานจะขาดใจ พยายามหุบเบียดเรียวขาเข้าหากันหลายต่อหลายครั้งเพราะกระสันซ่านเกินบรรยาย แต่ก็ต้องอ้าออกอีกครั้งเพราะสัญชาตญาณในห้วงลึกของจิตใจสั่งให้ทำ มือน้อยจิกกำเข้าหากันจนเกิดรอยแดง เสียงทุ้มฮึมฮัมในลำคอแสดงความพึงพอใจทำให้บัณฑิตาเขินจนแทบแทรกแผ่นดินหนี 



พี่เขาเซ็กซี่เป็นบ้าในสภาพเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์บดบังกาย กล้ามเนื้อเกร็งแข็งไปทุกส่วนสัดจนเห็นมันได้อย่างชัดเจน เส้นผมสีดำเปียกเหงื่อและไหลหยดย้อยกลิ้งอยู่กับกรอบใบหน้า สายตาคมกริบที่ร้อนแรงเสียจนแผดเผาเขาจากภายในจนมอดไหม้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า รอยยิ้มเจ้าเล่ห์มักจะวาดขึ้นให้เห็นทุกครั้งที่ลูกตากลอกกลิ้งไปพบโดยบังเอิญ โบรู้ว่าแฟนหมาดๆ ของตัวเองมีเสน่ห์ดึงดูดเหลือร้ายมากกว่าใคร แต่กลับไม่เคยคาดคิดว่าในเวลาเช่นนี้อีกฝ่ายจะอันตรายกับทั้งร่างกาย รวมถึงหัวใจจนเด็กวัยยี่สิบสองยินยอมให้สัมผัสหยาบโลนกดกระทำกับช่องทางด้านหลังอย่างจาบจ้วง ให้มันไต่ไล่ไปทั่วทั้งเรือนร่างและตอบแทนมันโดยการครางรับไม่เป็นภาษา ให้ไฟราคะ แรงปรารถนา เป็นฝ่ายควบคุมทุกหน่วยความคิดอย่างสมบูรณ์



ผู้ชายวัยกำหนัดที่อัดอั้นกับกิจกรรมบนเตียงมานานใส่แรงตามความต้องการไม่ยั้ง ซึ่งเป็นโชคดีที่ความเจ็บปวดไม่หันหวนคืนกลับมาทักทายเราทั้งคู่อีก ขณะนี้บนสังเวียนรักจึงเต็มไปด้วยความสุขสมของทั้งคู่ แต่น้องน้อยที่อ่อนประสบการณ์ดูจะรับมันไม่ค่อยไหว เปลือกตาสีอ่อนปิดแน่นสนิทเพราะไม่อยากเห็นภาพน่าอาย นอนแหกแข้งแหกขาเยี่ยงคนหมดแรงเพราะเหนื่อยล้าจากการขัดขืนฝืนหนีพันธนาการที่ไม่ต่างจากคีมเหล็ก รวมถึงกิจกรรมด้านล่างก็หนักหน่วงเสียจนเหมือนถูกพรากเอาวิญญาณไป เหงื่อกาฬไหลโทรมกาย จากเคยเป็นคนขี้หนาวก็กลับกลายเป็นว่าเครื่องปรับอากาศราคาแพงนั้นไม่อาจช่วยบรรเทาอุณหภูมิร้อนรุ่มได้เลย



ชเนศส่งแกนกายโหมกระแทกใส่ช่องทางรักเสียจนคนใต้ร่างหัวสั่นหัวคลอน เสียงหวานกระท่อนกระแท่น สะโพกยกโหย่งตอบรับเช่นคนไร้สติอยู่กับเนื้อตัว แผ่นอกเองก็แอ่นสู้ปลายลิ้นร้อนอย่างไม่กลัวตาย ชายหนุ่มคำรามในลำคอเมื่อเห็นปฏิกิริยาเช่นนั้นจากคนน่ารักซึ่งสาปสะกดให้หลงใหลด้วยสารพัดเสน่ห์ที่แฝงเร้น เขาควงสะโพก ดึงความเป็นชายออกมากระทั่งเราทั้งคู่เกือบหลุดออกจากการเชื่อมต่อ แล้วจึงสวนมันกลับไปจนสุดลำ และเหล่านั้นทำเอาน้องน้อยถึงกับสะดุ้งเฮือก ประจวบเหมาะกับที่ชายหนุ่มคืนอิสระให้กับข้อมือบาง บัณฑิตาจึงผวากอดรัดช่วงไหล่กว้างเอาไว้แน่น ร้องหาจุมพิตที่ตนเองเชื่อว่าอาจปัดเป่าความรู้สึกวาบหวามซึ่งตีรวนอยู่ในช่องท้องได้



ซึ่งคนใจดีที่มีแผนร้ายเกิดขึ้นในหัวก็ยอมมอบมันให้ ชายหนุ่มป้อนจูบรสหอมหวานเป็นการดึงความสนใจไม่ให้น้องน้อยรู้สึกตัวว่าต่อจากวินาทีนี้เขากำลังจะลงมือทำสิ่งใด ริมฝีปากหนาบดคลึงสาละวนคลอเคลียไม่เหินห่าง ขณะที่สองแขนแข็งแรงเริ่มสอดช้อนเข้าพยุงบั้นท้ายกลมกลึง ยกเรือนกายบอบบางขึ้นมาจากพื้นเตียงช้าๆ อย่างระมัดระวัง จนกระทั่งเราทั้งคู่อยู่ในท่านั่ง มีชเนศเป็นฐานรองแทนฟูกเตียง มีน้องซ้อนอยู่บนตัก สองขาเล็กแนบสีข้างโดยที่ปลายเท้าลอยค้างอยู่ในอากาศ แกนกายร้อนระอุยังผงาดคาคับโพรงเนื้ออบอุ่น บัณฑิตาผู้ซึ่งกำลังจดจ่อกับจุมพิตไม่อาจล่วงรู้ถึงชะตาชีวิตตัวเอง ร่างสูงกดยิ้มข้างมุมปาก ผละออกมามองใบหน้าน่ารักน่ารังแก เชยชมดวงเนตรเรียวรีคลอหยาดน้ำด้วยแววตาเปี่ยมแรงปรารถนา...



ก่อนจะปล่อยให้สะโพกตกหล่นตามแรงโน้มถ่วงลงมากลืนกินความเป็นชายของตัวเองเข้าไปจนมิดด้าม



อ๊ะ...อะ อย่า...ไม่เอา ฮื้อ ! ไม่เอาแบบนี้ ! ”



ถึงกับดิ้นพล่านเป็นปลาขาดน้ำเพราะท่าทางเช่นนี้ทำให้ตัวตนของพี่เขาสอดลึกเข้ามาบดเบียดจุดกระสัน จี้ย้ำค้างคาอยู่เช่นนั้นโบเองก็ไม่อาจรับไหว แต่จะให้ไปเอาแรงจากที่ไหนมาสู้คนเจ้าเล่ห์ได้ แค่ยังพยุงลมหายใจให้ไม่ขาดห้วงไปทั้งๆ ที่เสียดเสียวแทบตายก็ถือว่าเก่งมากแล้ว มือน้อยกรดกรีดจนแผ่นหลังกว้างขึ้นรอยข่วนเป็นทางยาว ทุบตีประท้วงแต่ก็ยังสั่นหงกเป็นลูกนกตกน้ำ



แต่พี่จะเอา



กล่าวเอ่ยอย่างเอาแต่ใจ พลางกระดกสะโพกสวนขึ้นมาแบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม ซึ่งแม้คนบนหน้าตักจะพยายามโหย่งโยนตัวขึ้นเพื่อลดแรงกระแทก หากแต่มันก็ไม่อาจช่วยอะไรได้มากในสถานการณ์ที่ชเนศเป็นต่อทุกด้านเช่นนี้



อย่าแกล้ง !... ฮื่อ พี่จ๋าอย่าแกล้ง ! ”



เรียกพี่จ๋าอีกสิคนดี เรียกอีก ”



ชเนศรู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังล่อลวงกระทำชำเราเด็กน้อยที่ไม่ได้รู้เรื่องราวอะไรเกี่ยวกับโลกของผู้ใหญ่ ซึ่งไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าบัณฑิตาในสภาพสิ้นฤทธิ์เช่นนี้นั้นส่งผลให้หัวใจของเขาเต้นตุบตับอย่างบ้าคลั่ง อยากได้ยินน้องต้องร้องเรียกหาจนคอแหบคอแห้ง อยากแสดงว่าความหลงใหลคลั่งไคล้ที่แฝงเร้นอยู่ในชายวัยกลัดมันนั้นทำอะไรเจ้าตัวได้บ้าง



พี่จ๋า...แบบนี้...อึก แบบนี้ มัน ”



เสียงสั่นกระเส่าเพราะถูกมือใหญ่จับบังคับให้สะโพกบดคลึงหน้าตักโดยมีแกนกายอัดแน่นอยู่ในช่องทางด้านหลัง บัณฑิตากัดริมฝีปาก เชิดหน้า ความรู้สึกที่แล่นตัดขั้วหัวใจทำเอาแทบหมดลม



มันทำไม หืม ? ลึกใช่ไหม ? ”



โบ...อื้อ...พี่จ๋า ลึก.. มันลึก ”



เสียว...ใช่หรือเปล่า ? ”



อ๊ะ...ส...เสียว ”



ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวพี่ช่วยขยับ โบจะได้หายไวๆ ”



หายกับผีน่ะสิ !



ป่วยการจะขืนสู้เพราะไม่เหลือแรงแม้แต่จะพยุงคำพูดให้เป็นประโยคสมบูรณ์ได้ บัณฑิตาก้มหน้ารับชะตากรรมที่ตัวเองได้ผูกเรื่องสร้างเอาไว้ตั้งแต่ชั่วโมงก่อนโดยดุษฎี หลังจากที่พี่เขากระซิบเสียงพร่าเสนอความช่วยเหลือ ( ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่ความช่วยเหลือที่แท้จริง ) สองมือใหญ่ก็สอดช้อนเข้าใต้บั้นท้ายกลมกลึงและยกมันขึ้นลงเป็นจังหวะให้กลืนรับแกนกายหายเข้าไปในช่องทางด้านหลัง โบรู้สึกถึงทุกแรงเสียดสี ความเสียวซ่าน ความร้อนระอุซึ่งกดชำแรกแทรกเข้ามาซ้ำแล้วซ้ำเล่า รู้สึกถึงความเจ็บปวดบนหัวไหล่บอบบางที่อีกฝ่ายมันเขี้ยวจนฝากรอยฟันทิ้งเอาไว้ให้ดูต่างหน้า เสื้อนอนสีฟ้าลายทางถูกเนรเทศลงไปกองอยู่บนพื้นอีกหนึ่งชิ้นหลังจากชเนศสบถเสียงต่ำอย่างหัวเสียว่าเขาไม่อยากให้ร่างกายเปลือยเปล่านี้แต่งแต้มด้วยสิ่งใด นอกจากรอยจ้ำสีแดงซึ่งมีต้นเหตุมาจากริมฝีปากหนาเท่านั้น



เด็กยังรู้เลยว่าในสถานการณ์เช่นนี้ ยิ่งขยับมากเท่าไรก็ยิ่งทำให้คลื่นความกระสันซัดสาดจนแทบพยุงตัวไว้ไม่อยู่ โบซบใบหน้าลงกับซอกคอชื้นเหงื่อซึ่งขับกลิ่นประจำกายของอีกฝ่ายออกมาให้ร่างน้อยรู้สึกมัวเมา เขาส่งเสียงครางอย่างเหนื่อยอ่อน ลมหายใจร้อนๆ และเสียงทุ้มต่ำที่ดังประชิดข้างใบหูทำเอาขนอ่อนทั่วทั้งสรรพางค์กายลุกชัน จังหวะการกระทบกระทั่งของเนื้อต่อเนื้อเริ่มรุนแรงขึ้นเมื่อชายหนุ่มยกสะโพกบางบางค้างไว้กลางอากาศ แล้วเป็นฝ่ายกระแทกสวนท่อนเนื้อขึ้นไปหาแฟนตัวเล็กเสียเอง บัณฑิตาขาสั่นเมื่อส่วนกลางลำตัวขนาดกะทัดรัดเสียดสีกับลอนกล้ามหน้าท้องทุกครั้งที่คนตัวโตขยับขึ้นลง เหงื่อกาฬไหลเคลือบทั้งผิวรวมถึงเส้นผมจนแยกไม่ออกว่าของใครเป็นของใคร ใบหน้าน่ารักเหงนเงยขึ้นรับจูบที่ชเนศมอบให้แทนการบอกให้ใจเย็นเป็นระยะ



น้องน้อยหัวหมุนเมื่อถูกบังคับจับท่าทางให้กลับลงนอนราบกับฟูกเตียงโดยมีหมอนใบโตคอยรองสะโพกให้ยกขึ้นสูงเอาไว้ ทาบทับด้วยร่างใหญ่ที่ไม่ยอมถอดถอนกายออกไปจากเขาเลยสักวินาทีเดียวตั้งแต่นำอาวุธร้ายสอดใส่เข้ามา เรียวขาเล็กพาดวางอยู่บนสองบ่ากว้างด้วยท่าทางแสนน่าอาย แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยประท้วงหรือตักเตือนอีกฝ่ายด้วยการกระทำ ก็ต้องหวนกลับมาทำหน้าที่ร้องครางเสียงสั่นเหมือนดังเดิม ชเนศถาโถมห่มสะโพกเข้าใส่ช่องทางนั้นอย่างเอาเป็นเอาตาย เปลี่ยนสังเวียนรักหวานแหววกลายเป็นสมรภูมิอันดุเดือดเมื่อทุกอย่างเริ่มใกล้เข้ามาเรื่อยๆ โบปิดเปลือกตาแน่น กัดริมฝีปากกลั้นเสียงครางจนมันแทบห้อเลือด กดเล็บข่วนทั่วแผ่นหลังกว้างระบายความกระสัน หากทว่าคนเป็นพี่ก็ไม่มีทีท่าจะสะท้านแสบแต่อย่างใด ครั้นเมื่อสังเกตเห็นว่าน้องกำลังจะเลือดตกยางออกเนื่องจากตัวเอง ก็ใช้จุมพิตปลอบประโลมเหมือนทุกครั้ง และเสียสละเป็นผู้แบกรับความเจ็บปวดเอาไว้โดยให้บัณฑิตาขบกัดชิ้นเนื้อนิ่มจนรสสนิมเลือดคลุ้งเต็มไปหมด



วาระสุดท้ายอยู่ไม่ไกลเกินไขว่คว้า ชเนศกัดฟันกรอด โถมกำลังชายกระแทกใส่จนโบหัวสั่นหัวคลอน ส่งเสียงร้องไม่เป็นภาษา เขาเห็นน้องกระตุกเกร็งจนตัวสั่น ช่องทางบีบรัดจนแกนเนื้อเขาฟ้องร้องว่ามันแสนทรมาน ก่อนเจ้าตัวน้อยจะทึ้งดึงผ้าปูที่นอนยับยู่ยี่ให้หลุดออกจากมุมเตียง เสียงหวีดร้องเป็นเหมือนสัญญาณบอกให้ชายหนุ่มเร่งทำเกม มือใหญ่จับกระชับสะโพกผายไว้อย่างแน่นหนา เสือกไสสะโพกเข้าออกอย่างรุนแรงจนกระทั่งความรู้สึกวาบหวามถูกจุดขึ้นในช่องท้องของทั้งสองฝ่าย แต่คนซึ่งอ่อนประสบการณ์กว่าก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไป โดยมีน้ำสีขาวขุ่นซึ่งฉีดกระฉอกออกมาจากส่วนกลางลำตัวเป็นหลักฐาน ก่อนที่ธงชัยจะถูกคว้าโดยเจ้าของร่างกายกำยำที่ส่งน้ำเชื้อมากมายเข้าไปอัดแน่นอยู่ในโพรงเนื้ออ่อนนุ่ม มีบางส่วนทะลักล้นไหลออกมาอาบเรียวขาขาวทั้งสอง





กลับไปอ่านต่อก่อนนะ