วันเสาร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2560

Tamed - 22








ชาวาบไปทั้งตัวและหัวใจ... 



น้ำเสียงของเซฮุนหนักแน่นยิ่งกว่าครั้งไหนๆ ซึ่งมันทำให้ลู่ฮานถึงกับน้ำตาไหล ร่างเล็กรู้สึกเจ็บปวดจนไม่ต้องหยิกตัวเองก็รู้ได้ว่ามันคือเรื่องจริง เขากำมือแน่นจนมันสั่นระริก กัดริมฝีปากจนเลือดซิบเพื่อกลั้นเสียงสะอื้น อย่างไรก็ตามตอนจบมันก็คงไม่เป็นแบบอื่นแล้ว ซึ่งมันก็ไม่ง่ายหรอกที่จะยอมรับได้ ในเมื่อเอาใจไปผูกเอาไว้กับอีกฝ่ายแล้ว 



ปาดน้ำตาทิ้งอย่างไม่ใส่ใจนัก ยิ้มฝืนเหมือนไม่รู้สึกอะไรพลางตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าวันนี้ลู่ฮานจะต้องจากไป เขาต้องทำให้มั่นใจว่าตัวเองจะไม่เสียใจในภายหลัง ร่างเล็กจึงก้าวเท้าขยับกายเข้าใกล้ โน้มตัวลงจุมพิตริมฝีปากของเซฮุนพร้อมลมหายใจขาดห้วง 



มันทั้งอบอุ่นและหนาวเหน็บไปในคราเดียวกัน แค่นึกว่าวันพรุ่งนี้จะไม่มีกันและกันแล้วลู่ฮานก็รู้สึกราวกับว่าดวงอาทิตย์เป็นปรปักษ์กับตน เขาดำดิ่ง ถลำลึก แลกเปลี่ยนน้ำลายจนผสมปนเป็นหนึ่งเดียว เซฮุนเป็นเชื้อไฟชั้นดีที่ชุ่มไปด้วยน้ำมัน แค่ไม้ขีดก้านเล็กๆ หล่นลงไปถูกก็สามารถลุกลามใหญ่โตจนไม่อาจมีใครหยุดได้ 



รู้สึกตัวอีกทีก็ลงไปอยู่ร่วมกับชายหนุ่มในอ่าง นั่งซ้อนบนหน้าขาโดยมีมือหนาช้อนรองบั้นท้าย เครื่องแต่งกายราคาแพงเปียกแฉะแต่ไม่อยากใส่ใจ เพราะปากที่พัวพันและเล็บมือซึ่งเหนี่ยวจับบนหลังคอของอีกฝ่ายนั้นดึงดูดความสนใจของลู่ฮานไปหมด กลิ่นกายโดยธรรมชาติของเซฮุนยังช่วยปลุกเร้าทุกต่อมรับความรู้สึกทั่วสรรพางค์กาย ยามที่เขาผละออกมาขบกัดรังแกให้ผิวขาวเป็นรอยช้ำจ้ำแดง กลีบปากบางก็เผยออ้าปลดปล่อยเสียงครางผะแผ่ว 



เลื่อนมือใหญ่ขึ้นสูง ปลดกระดุมออกจากรังทีละเม็ดจนสุดปลายชายเสื้อ ลดคางลงต่ำแล้วใช้เขี้ยวสะกิดยอดอกให้แข็งขืนสู้ ปลายนิ้วสากเกลี่ยวนรอบแอ่งสะดือจนผู้ถูกกระทำถึงกับหายใจไม่ทั่วท้อง ลู่ฮานตัวอ่อนเป็นขี้ผึ้งลนไฟ ห้วงความคิดถูกชะล้างจนขาวโพลนก่อนจิตรกรอย่างเซฮุนจะบรรจงสาดสีใส่อย่างพิถีพิพัน ชักนำสู่ทางสวรรค์จอมปลอม ซึ่งแก่นที่แท้จริงคืออเวจีที่พร้อมเผาให้ทั้งสองกลายเป็นเพียงเถ้า 



รู้ดีอยู่แก่ใจว่ามันผิด รู้ว่าต่างคนต่างเพิ่งผ่านพายุความทุกข์ระทมมาหมาดๆ แต่อย่างไรก็ไม่อาจหักห้ามใจไม่ปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นได้ พวกเขาเริ่มความสัมพันธ์ประหลาดซึ่งถูกบ่มเพาะจากเมล็ดของความเคียดแค้น รดน้ำด้วยความเกลียดชัง ใส่ปุ๋ยให้งอกเงยงดงามด้วยคำบริภาษด่าทอ สุดท้ายจึงเติบโตเป็นดอกไม้ที่มีกลีบและลำต้นปกคลุมด้วยหนาม น้ำหล่อเลี้ยงในลำต้นเป็นพิษ  



ทว่ากลิ่นหอมหวานกลับเย้ายวนจนทั้งเซฮุนและลู่ฮานยอมเจ็บปวดเพื่อแลกมันมา... 



เป็นลู่ฮานเองที่ค่อยๆ เปลื้องเสื้อทิ้งลงน้ำ รวมทั้งปลดกระดุมกางเกงออก ก่อนรูดหัวซิปลากจนสุดปลาย เปิดทางให้มือใหญ่บุกรุกอุกอาจเข้าไปสัมผัสแกนกายขนาดกระทัดรัด ส่วนร่างเล็กก็ไม่ยอมน้อยหน้าเพราะถือวิสาสะแตะจับตัวตนของอีกฝ่ายเช่นเดียวกัน 



พวกเขาปิดเปลือกตา จุมพิตกันอย่างช้าๆ และเนิบนาบ ราวกับจะถนอมทุกเสี้ยววินาทีต่อจากนี้เอาไว้ในกล่องความทรงจำแสนสำคัญ ปลายนิ้วละเอียดตามประสาคนไม่เคยหยิบจับอะไรไล้วนรอบส่วนหัวร้อนผะผ่าว กำรอบลำกายแล้วเริ่มสาวรูดเป็นครั้งคราวเพราะรู้สึกเขินอายเกินกว่าจะทำอย่างต่อเนื่อง ส่วนเซฮุนเจ้าของงูใหญ่ตัวเขื่องก็ชำนิชำนาญจนลู่ฮานเริ่มทัดทานไม่ไหว เขาขบกัดทิ้งจ้ำสีแดงช้ำเอาไว้รอบคอ ตีตราไม่เว้นที่ว่างสักตารางนิ้ว เหมือนจิตรกรอิมเพรสชั่นนิสม์กำลังวาดภาพบนผืนผ้าใบขนาดใหญ่ด้วยริมฝีปาก 



ลมหายใจสะดุดขาดเมื่อพี่เขาเลิกสนใจของสงวนด้านหน้า แล้วเริ่มรุกรานช่องทางอ่อนนุ่มด้านหลังที่ขยับเปิดทุกครั้งยามถูกนิ้วนวดคลึงสลับกับการสะกิดด้วยปลายเล็บสั้น หัวเข่าทั้งสองข้างตั้งชันหยัดยันเพื่อยกสะโพกขึ้นสูง แทนการบอกยินยอมกลายๆ แถมเชื้อเชิญให้เซฮุนรังแกตัวเองมากยิ่งขึ้น ริมฝีปากบวมช้ำพร่ำพูดคำขอร้องไม่จบสิ้น ซึ่งถึงเซฮุนจะได้ยินหากทว่าเขากลับไม่ยอมแม้กระทั่งการสอดนิ้วเข้ามา 



ลู่ฮานเจียนจะขาดใจเพราะทนความต้องการไม่ไหว แต่ถือเป็นโชคดีเหลือเกินที่วันนี้เซฮุนไม่ได้ทำตัวเป็นมารร้ายเหมือนอย่างเคย เขาเพียงแค่ไม่สอดนิ้วเข้าไปด้วยเหตุผลที่ว่าตนอยากเติมเต็มความวูบโหวงดังกล่าวนั้นด้วยแกนเนื้อระอุที่จะสามารถรับความรู้สึกทุกอย่างได้อย่างลึกซึ้งเท่านั้น แล้วไม่ต้องมัวพูดพร่ำเพราะการกระทำนั้นไวเท่าความคิดเลยก็ว่าได้ เขาจับแกนกายสอดใส่โพรงเนื้อนุ่มหยุ่น มือข้างที่ยังว่างกดบั้นท้ายกลมกลึงเพื่อเร่งเร้าให้ร่างเล็กรับมันเข้าไปจนสุดลำ 



รู้ว่าทุกนาทีต่อจากนี้มีคุณค่า เลยไม่ปล่อยปละให้สูญสิ้นไปโดยเปล่าประโยชน์ ลู่ฮานเริ่มขยับโยกสะโพกก่อนโดยไม่ต้องมีใครออกคำสั่ง กัดริมฝีปากสะกดกลั้นเสียงครางเมื่อเซฮุนเริ่มสาวรูดกระตุ้นส่วนอ่อนไหวด้านหน้า พร้อมทั้งปาดลิ้นสะกิดเบาๆ บนติ่งหู เสียงหายใจฟืดฟาดเหมือนตาแก่หื่นกามทำให้ลู่ฮานขนลุกซู่ แต่ก็ยังรู้สึกพึงพอใจที่มือใหญ่อีกข้างบีบขยำบั้นท้ายราวกับคิดว่าเป็นแป้งปั้นสำหรับเด็ก 



แม้จะอยู่ในอ่างแต่ปัญหาน้ำกระฉอกกระเด็นกลับไม่เป็นอุปสรรค ไฟราคะยังถูกโหมพัดให้ลุกโชนมากยิ่งขึ้น ทุกครั้งที่ลู่ฮานกดสะโพกลงมาจนผิวเนื้อแนบกัน เซฮุนก็จะเด้งสะโพกรับช้าๆ เพื่อส่งความเป็นชายให้ลึกล้ำและค้างคาอยู่อย่างนั้นนานยิ่งขึ้น ชายหนุ่มละริมฝีปากออกจากแอ่งไหปลาร้าที่เต็มไปด้วยรอยช้ำ แล้วตะโบมจูบคนบนร่างอย่างตะกละตะกราม  



ยิ่งเห็นน้องหอบหายใจเหมือนจะขาดใจตาย เซฮุนก็ยิ่งรู้สึกราวกับตัวเองเป็นมัจจุราชที่มาเพื่อปลิดชีพและพรากวิญญาณดวงน้อยนี้ไปอย่างไม่ปรานี เขากดยิ้มลึก ครางฮึมฮัมในลำคออย่างลำพองใจ เมื่อปลายเล็บไม่สั้นไม่ยาวของลู่ฮานเริ่มกรีดลากบนแผ่นหลังแทนการร่ำร้องว่าตนกระสันจนต้องหาที่ระบาย 



ขาสั่นจนแทบยันตัวเองขึ้นมาไม่ไหวแต่ก็ยังสานต่อกิจกรรมไปไม่ขาดตกบกพร่อง เซฮุนจึงเห็นแก่ความดีที่น้องพยายามอย่างหนักเพื่อความสุขของเราทั้งคู่ เขาใช้สองแขนสอดรองขาพับ ออกแรงยกให้มันลอยโดยมีแกนกายขนาดใหญ่เสียบเชื่อมคาอยู่ จากนั้นชายหนุ่มจึงเริ่มกระเด้งสะโพกสวนใส่ ช่องทางคับแน่นโอบล้อมตัวตนของเขาเอาไว้ด้วยความร้อนราวกับจะหลอมละลายให้เนื้อรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน 



กลิ่นเหงื่อและฟีโรโมนเหมือนยากระตุ้นให้สัตว์ป่าในตัวเซฮุนคลั่ง เขาเร่งจังหวะเมื่อรู้สึกว่าแสงสีขาวค่อยๆ กินพื้นที่ในหัวสมอง ดวงตาสีรัตติกาลสอดประสานจดจ้องแววตาน่ารังแกของน้องน้อยในตอนที่กระเด้งสะโพกใส่ไม่ยั้ง ลู่ฮานเริ่มส่งเสียงครางกระท่อนกระแท่น แผ่นอกบางขยับขึ้นลงไม่เป็นจังหวะ มือเกี่ยวจิกป่ายปัดสร้างความเจ็บแสบบนผิวเนื้อของชายหนุ่ม ริมฝีปากนุ่มหยุ่นเป็นฝ่ายเริ่มจุมพิตพี่เขาโดยไม่นึกกระดากอาย ด้วยเหตุที่ว่าตนเองกำลังจะแบกรับความเอ็นดูเหล่านี้ไม่ไหว สุดท้ายจึงกระตุกสั่นและปล่อยน้ำสีขาวขุ่นออกมาให้อีกฝ่ายเชยชม 



ชั่วอึดใจช่องทางด้านหลังก็ร้อนวาบ ลู่ฮานรู้สึกได้ว่ามันมากจนล้นออกมาผสมกับน้ำในอ่าง แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจจะก้มลงไปมองเพราะมัวแต่กอบโกยอากาศเข้าปอด ศีรษะเล็กพิงซบลงบนช่วงไหล่กว้าง มือเล็กสั่นไหววางบนแผ่นอก ปล่อยให้เซฮุนขบกัดสร้างความเจ็บปวดรอบคออย่างไม่รู้จักพอตามแต่ใจอีกฝ่ายปรารถนา 



ยังไม่ทันนั่งพักให้หายเหนื่อยร่างน้อยก็ลอยหวือขึ้นอยู่กลางอากาศ โดยมีตัวตนของเซฮุนที่เพิ่งปลดปล่อยออกมาหากทว่ายังผงาดอยู่ภายในกาย ด้วยชายหนุ่มกลัวว่าหากนั่งอยู่ในน้ำเช่นนี้เรื่อยไป ผิวเนื้ออาจเปื่อยย่นกันเสียหมดพอดี แต่เห็นพาขึ้นมาแบบนี้ บอกเลยว่าไม่ใช่ตอนจบของเกมรักครั้งนี้แน่ เพราะแทนที่ชายหนุ่มจะเดินออกจากห้องน้ำไป เขากลับหยุดตรงหน้าเคาน์เตอร์ก่อหินอ่อนขนาดใหญ่ แล้วจ้องมองดวงตาสีน้ำตาลลึกเข้าไปราวกับจะค้นหาอะไรบางอย่าง 



เขาเห็นเพียงแค่ประกายความน่ารังแกในนั้น เจ้าของร่างกายกำยำเลยไม่รีรอที่จะลงมือกระทำย่ำยีนักโทษอุกฉกรรจ์ในความดูแล เริ่มจากการจูบแลกน้ำลายซ้ำแล้วซ้ำเล่า ช่วงชิงเอาลมหายใจมาครอบครอง ฝ่ามือใหญ่ฟอนเฟ้นไปทั่วผิวกาย สะกิดยอดอก ขยำเอวคอด เลยลามไปถึงบั้นท้าย ไม่ปล่อยปละให้ลู่ฮานพักเหนื่อยเลยสักวินาที 



ขยับเอวสอบกระแทกกระทั้นไม่บันยะบันยังอย่างเอาแต่ใจ หัวสั่นหัวคลอนหวีดร้องจนวุ่นวายไปหมด เอวคอดถูกกดตรึงกับแผ่นหินเย็นยะเยือกไม่ให้เคลื่อนไหวไหลไปไหน ในขณะที่แกนกายของพี่เขากระทบกระทั่งถูกจุดรวมความรู้สึกทุกครั้งที่บุกรุกเข้ามา สองขาอ้ากว้างสั่นระริก มือจิกผิวเนื้อตนเองจนทั้งชาทั้งเจ็บไปหมด กล้ามเนื้อในอกเต้นตุบตับเหมือนมีมือกลองมารัวฉลองชุดใหญ่ 



ท่าทางเช่นนี้บีบบังคับให้จุดรวมสายตามีเพียงที่เดียวคือชายหนุ่มซึ่งกำลังดำเนินกิจกามอยู่ตรงหว่างขา ลู่ฮานเห็นเซฮุนมีสภาพเหงื่อโทรมกาย เส้นเลือดปูดขึ้นให้เห็นได้ชัดในหลายจุด เรื่องกล้ามท้องกล้ามแขนนี่ไม่ต้องพูดเพราะไม่ต้องออกแรงเยอะก็เห็นเป็นปกติอยู่แล้ว แถมเสียงสบถปนเสียงหอบนี่ยังเป็นยาหลอนประสาทชั้นดีอีกต่างหาก ให้ตายเถอะนะ ใครก็ได้มาควักลูกตาบ้านี่ออกไปที ขืนเป็นแบบนี้ต่อไปลู่ฮานคงเขินอายตายกันไปข้าง 



อยู่ได้ไม่นานก็ถูกบังคับพลิกกลับหันหลัง ซึ่งร่างบางก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีโดยการเท้าวางมือบนเคาน์เตอร์ เพื่อกระจายน้ำหนัก แล้วจึงเริ่มรู้สึกได้ถึงสัญญาณศึกหนักเมื่อเอวสอบเคลื่อนถอยห่างออกจนเราทั้งสองเกือบหลุดออกจากการเชื่อมต่อกันและกัน ก่อนจะสวนกลับเข้าจนสุดลำ ถูกจุดกระสันพอดิบพอดีไม่มีคลาดเคลื่อน แผงอกแกร่งแนบชิดอยู่กับแผ่นหลังบาง ขณะที่ด้านล่างยังขยับอย่างต่อเนื่องไม่เชื่องช้า 



หอบหายใจอยู่ข้างหูพลางขบเบาๆ เพราะรู้ว่านี่เป็นหนึ่งจุดอ่อนของน้อง เสียงครางหวานดังสะท้อนก้องห้องสี่เหลี่ยม ริมฝีปากร้อนผะผ่าวแตะนาบผิวเนื้อเนียนที่ตกสำรวจและทิ้งรอยไว้บ้างประปราย ท่อนแขนแข็งแรงหนึ่งข้างตระกองกอดเอวบางเอาไว้ ส่วนอีกข้างก็จับใบหน้าสวยหวานให้หันมารับจูบตะกรุมตะกรามของตนเองอย่างคนไม่รู้จักพอ ไม่รู้ทำไมมันไม่เบื่อเลยสักทีไม่ว่าจะตักตวงมาเติมมากแค่ไหน 



กลายเป็นยาเสพติดของกันและกัน ซึ่งแรงผลักดันนั้นมาจากความรู้สึกที่ไม่อยากแยกจากกันไม่ว่าจะทางใดในส่วนลึกของหัวใจ  



ต่างคนต่างตระหนักรู้ได้ว่าหากสิ้นคืนนี้ไป ระหว่างเราคงเหลือเพียงเถ้าธุลี...